ทดสอบ MITSUBISHI ALL NEW TRITON L200 ผจญโค้งดอยอินทนนท์
ถือเป็นอีกหนึ่งทริปของการเดินทางที่ทำให้เรารู้จักความน่าใช้ของรถเพิ่มมากยิ่งขึ้น สำหรับการทดสอบรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ หรือ แอล 200 เจนเนอเรชั่นล่าสุดทีเผยโฉมไปเมื่อช่วงต้นไตรมาสก์ที่ 4 ของปีที่ผ่านมา แม้หลังจากที่มีการเปิดตัวจะมีการขับแบบ First Impression บ้างแล้วก็ยังเป็นการขับแบบ “สัมผัสแรก” แต่สำหรับครั้งนี้ น่าจะถือว่าเป็นบทพิสูจน์ที่แท้จริงของกระบะ ตัวแกร่ง เห็นได้จากเส้นทางของการทดสอบ ซึ่งถือว่าครั้งนี้ “ไม่ธรรมดา” และน่าสนใจอย่ายิ่ง
สำหรับเส้นทางคร่าวๆ นั้นถือว่ามีให้ลองกันครบรส ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางในเมืองที่มีรถติดของเมืองเชียงใหม่ แต่ก็อาจจะไม่มากมายนัก เส้นทางบนถนนไฮเวย์ ที่สามารถเรียกกำลังของการทดสอบความแรงของเครื่องยนต์ กับการทำงานของเกียร์ที่ได้ปรับมาใช้เป็น 6 สปีด รวมทั่งการขับในทางโค้งที่ช่วยให้เห็นสมรรถนะในการยึดเกาะถนนของช่วงล่างได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีเส้นทางฝุ่นให้ได้ลองขับกันแบบ “ครอสคันทรี่” ที่นอกเหนือจากจะขับสนุกแล้ว ยังมั่นใจจากการทำงานของระบบขับเคลื่อน และทคโนโลยีความปลอดภัยที่ใส่มาให้อย่าง “จัดเต็ม” อีกด้วย
ภายนอกดุดัน ลุยกัยเฉพาะในรุ่นขับสี่
MITSUBISHI ALL NEW TRITON L200 ในรุ่นที่เรามีโอกาสได้ทดลองขับกันนั้น จะเป็นรถรุ่น ดับเบิ้ลแคป ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์อัตโนมัติ แต่เนื่องจากเรามีโอกาสได้ลองขับในรุ่นเกียร์ธรรมดาด้วย ซึ่งก็จะหยิบยกมาพูดคุยกันพอเป็นกษัยเปรียบเทียบกับเกียร์อัตโนมัติ แต่การออกแบบโดยรวมถือว่า ไม่แตกต่างกันคือทำออกมาได้ค่อนข้างลงตัวขึ้น
โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์การออกแบบด้านหน้าใหม่แบบ “Dynamic Shield” ฝากระโปรงหน้าดูดุดันขึ้น พร้อมไฟหน้าดีไซน์ใหม่ติดตั้งอยู่บนตำแหน่งที่สูงขึ้นซึ่งในภาพกว้างการดีไซน์ลักษณะนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ที่มิตซูบิชิใช้ อยู่ในหลายรุ่น ที่ผ่านมาก็จะมีทั้งรถเอนกประสงค์ตัวเก่งของค่ายที่ออกมาก่อนหน้านี้ก็คือ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ นั่นเอง
ด้านข้างและด้านหลัง มีตัวถังดีไซน์ใหม่ผสานกันอย่างลงตัวด้วยส่วนโค้งมนตัดกับเส้นสายอันโฉบเฉี่ยว พร้อมซุ้มล้อขนาดใหญ่เน้นความแกร่งและความทันสมัยของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ รวมถึงชุดไฟท้ายและชุดกันชนดีไซน์ใหม่ช่วยเพิ่มความบึกบึนมากกว่าเก่าอย่างชัดเจน
ในส่วนของภายในห้องโดยสารของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ยังคงใช้โทนสีที่อบอุ่น และดูแข็งแกร่ง พร้อมกับการออกแบบที่ที่ทันสมัย ซึ่งต้องยอมรับว่า มิตซูบิชินั้นยังรักษาความลงตัวสวยงามของการออกแบบภายในเอาไว้ได้อย่างโดดเด่น ตั้งแต่ไทรทันตัวแรก มาจนถึงเจนล่าสุดที่เราทดสอบกันนี้ รวมทั้งการออกแบบแผงควบคุมตลอดจนช่องแอร์ ที่อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม อุปกรณ์ภายในใส่มาให้มากกว่าแอทลีท พอสมควรโดยยกมาจากปาเจโร่สปอร์ตเกือบทั้งหมด เดี๋ยวเราจะไปพูดกันอีกทีระหว่างพาทุกท่านไปทดสอบการใช้งานจริง
เครื่องยนต์ MIVEC 2.4 ลิตร VG Turbo 181 แรงม้า
ถ้าจะบอกว่า ต้นกำลังที่ใช้กับมิตซูบิชิ ไทรทันใหม่ นี้ถือว่าเป็นเครื่องยนต์ดีเซลอีกตัวหนึ่ง ที่ช่วยให้มิตซูบิชิได้รับความนิยมก็ไม่ผิดนัก ซึ่งตั้งแต่อดีตชื่อของกระบะมิตซูบิชิ โดดเด่นในเรื่องของความแรง แต่ก็มีชื่อในเรื่องของควันดำและการบริโภคน้ำมันอยู่บ้าง แต่เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนช่วยให้การปรับปรุงเครื่องยนต์ที่ดีขึ้น การเผาไหม้สมบูรณ์ขึ้นควันน้อยลง และก็เป็นไปตามข้อกำหนดเรื่องของมลพิษที่ต้องผ่านในส่วนของ ยูโร 4 ด้วย
แต่ก็แน่นอนว่าความแรงยังคงไว้ใจได้เช่นเดิม จากเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร ความจุอาจจะไม่ได้แตกต่างจากบล็อกก่อนๆ นัก แต่แรงม้าที่เรียกออกมาใช้งานได้นั้นมากถึง 181 ตัว ที่รอบเครื่องยนต์ต่ำเพียง 3,500 รอบ/นาที ส่วนแรงบิดทำได้ 430 นิวตัน-เมตร ที่ 2,500 รอบต่อนาที ด้วยความช่วยเหลือจากเทอร์โบแปรผัน หรือว่า VG เทอร์โบ ก็ช่วยให้รถมีอัตราเร่งที่ดีต่อเนื่อง ทั้