เทคนิคการเลือกซื้อรถมือสอง ต้องใส่ใจในทุกรายละเอียด
การเลือกซื้อรถมือสองถ้าไม่มีความรู้ หรือแนวทางการเลือกซื้อที่ถูกต้องก็อาจจะทำให้เราเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา และมีความเสี่ยงในการเดินทาง อีกทั้งใช้แล้วไม่ถูกใจ ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เสียศูนย์ ซ่อมไม่จบ รวมทั้งปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เพื่อเป็นการป้องกันการ “ย้อมแมว” สำหรับรถมือสอง
สังคมอยู่ยากพึ่งตนเองให้ได้มากที่สุดอย่างน้อยเมื่อเรามีหลักการดูรถใช้แล้วที่ถูกต้อง เราก็คงไม่ได้เป็น “หมู” ให้ใครเชือดได้ง่ายๆ แน่นอน
การประเมินสภาพรถใช้แล้ว ( Evaluating Used Cars ) ด้วยความรู้พื้นฐานอันน้อยนิดเกี่ยวกับรถ คุณสามารถใช้ความรู้ทั่วไป และความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ จากผู้เชี่ยวชาญ ในการประเมินคุณภาพ และเครื่องยนต์ของรถ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ก่อนที่คุณจะใช้เวลาในการทดสอบรถนั้น สิ่งที่ควรทำก็คือ การเช็คประวัติการใช้งานของรถคันดังกล่าว ซึ่งทำให้เราสามารถ พอที่จะรู้ได้ว่า
– รถคันดังกล่าวเคยประสบอุบัติเหตุร้ายแรง หรือภัยทางธรรมชาติหรือเปล่า
– มีการทำสีมาหรือเปล่า
– รถมีการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์การครอบครองหรือเปล่า / เปลี่ยนมาแล้วกี่ครั้ง
– รถมีการปรับเลขไมล์หรือเปล่า
– เคยเกิดอุบัติเหตุรุนแรงมาก่อนหรือไม่ (ในท้องที่ใด )
จากเหตุผลดังกล่าว จึงเป็นเหตุผลที่ดีในการเช็คประวัติการใช้งานของรถ ก่อนที่คุณจะทำการตรวจเช็คสภาพรถในขั้นตอนถัดไป
หลังจากที่ได้มีการเช็คประวัติการใช้งานของรถ, ตรวจดูสภาพรถโดยรอบ, และทดลองขับแล้ว การที่คุณจะลงทุนเพิ่มเติมอีกประมาณ 2,000 ถึง 3,000 บาท เพื่อจ้าง ช่างเครื่องยนต์ที่มีประสบการณ์ และเชื่อถือได้มาตรวจสอบสภาพรถอีกครั้ง โดยช่างเครื่องยนต์จะสามารถทำการเช็คสภาพเครื่องยนต์โดยละเอียด และสามารถค้น พบปัญหาที่จะส่งผลให้คุณเสียค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ หลังจากที่ซื้อรถไปแล้ว
การตรวจสอบร่องรอยอุบัติเหตุ การที่จะทำการตรวจสอบว่ารถคันนี้เคยประสบอุบัติเหตุมาก่อนหรือไม่ สามารถรู้ได้จากวิจารณญาณของช่าง นอกจากนี้ช่างสามารถบอกได้ถึงคุณภาพ ของงาน ซ่อมอีกด้วย และก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะปฏิเสธรถที่ผ่านการซ่อมมาเป็นอย่างดี และด้วยความรู้เรื่องของการซ่อมเป็นอย่างดี ก็จะช่วยในการต่อรองราคากับ เจ้าของรถ นอกจากการให้ช่างหรือผู้เชี่ยวชาญมาทำการตรวจสอบรถแล้ว ยังมีวิธีอื่นที่ใช้ในการตรวจสอบอีกคือ
- สามารถเช็คได้จากความกลมกลืนของสี, ความมันวาว, และความเสมอกันของเนื้อสี โดยทั่วไปแล้วถ้ามีอุบัติเหตุร้ายแรง และมีการซ่อมแซมสี คุณจะสามารถสังเกตเห็นความแตกต่างของสี หรือริ้วคลื่นของสีบริเวณตัวถังรถ หรือ รอยต่อของรถ
- นอกเหนือจากสีแล้ว ยังสามารถสังเกตความเข้ากันของชิ้นส่วนต่างๆ ของรถ โดยการเดินไปที่บริเวณหน้าและหลังรถเพื่อให้สังเกตถึงความไม่เท่ากัน ของจุดเชื่อมต่อได้ง่ายยิ่งขึ้น
การค้นหารถที่ต้องการ
- ขอดูคู่มือการรับบริการ และเอกสารติดรถอื่นๆ เป็นที่น่ายินดีถ้าเจ้าของรถเก็บเอกสารดังกล่าวไว้ เพราะว่าเอกสารพวกนี้ ช่างเครื่องยนต์ที่มีประสบการณ์ หรือคนที่มีความคุ้นเคยกับการซ่อมเครื่องยนต์ สามารถบอกรายละเอียดของรถได้อย่างมากมาย เจ้าของรถที่มีการเก็บเอกสารไว้ ส่วนมากจะเป็นคนที่มีการดูแลรักษารถ และนำรถเข้าศูนย์บริการเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมดูที่เอกสารเหล่านั้นว่าเป็นของรถคันนั้นหรือไม่ และถ้ามีการซ่อมบริเวณส่วนใดส่วนหนึ่งของรถเป็นเวลาหลายๆครั้ง ให้ลองสอบถามกับเจ้าของ รถว่าเกิดอะไรกับชิ้นส่วนดังกล่าว และบอกกับช่างเครื่องที่มาช่วยตรวจสอบเครื่องเพื่อทำการเช็คในจุดดังกล่าวอีก
- เช็คการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ยาง, ยางกรอบประตู, แป้นเหยียบ, และเข็มขัดนิรภัย: คุณสามารถเช็คการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ต่างๆ ดังกล่าวควบคู่ไปกับการเช็คเลขไมล์ที่วิ่งในการตรวจสอบสภาพรถได้ โดยการเช็คว่าถ้าเลขไมล์ที่วิ่งน้อย แต่อุปกรณ์ต่างๆ เสื่อมสภาพไปมากแล้ว อันนี้จะแสดงถึงความผิดปรกติของรถ แต่ในทางกลับกันถ้าเลขไมล์ที่วิ่งสูง แต่อุปกรณ์อื่นๆ ยังอยู่ในสภาพดี รถคันนั้นก็ดู น่าสนใจ
- สอบถามเกี่ยวกับ สถานที่ ( ภูมิภาค ) และสภาวะแวดล้อมในการขับขี่ของเจ้าของเดิม
- เช็คอุปกรณ์ต่างๆ รอบตัวรถ:
– เริ่มต้นจากการเช็ค ไฟบอกสัญญาณต่างๆ เช่น ไฟบอกสัญญาณเลี้ยว และไฟเบ