อเมริกาเผยโฉม Toyota Tundra ปี 2026 หล่อล่ำ และหรูขึ้นเพิ่มประสิทธิภาพในการลุยในรุ่น TRD Pro
ในขณะที่เมืองไทยกำลังมีข่าวกระบะรุ่นใหม่จากค่ายโตโยต้า ก็คือ Toyota HILUX TRAVO จะออกมาอวดโฉมช่วงปลายปีนี้ ทีมงาน Carbeliever เลยอยากจะขอนำทุกท่านไปชมกระบะอีกรุ่นของค่ายโตโยต้าในอเมริกาเผยโฉม Toyota Tundra ปี 2026 ใหม่ออกมาให้เห็นกันไม่นานนี้ ซึ่งรุ่นใหม่ได้มีการอัพเกรดเพิ่มความหรูหรา และสมรรถนะในการลุยมากยิ่งขึ้น พร้อมใส่เทคโนโลยีขั้นสูงมาให้อีกมากมาย รายละเอียดจะเป็นอย่างไรหน้าตาและออฟชั่นโดนใจคนไทยเราขนาดไหนไปดูกันเลยครับ


- ภายใน Capstone ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยหนัง Shale Premium Textured
- เบาะนั่งแบบไดนามิก ISO พร้อมให้บริการในรุ่น Tundra TRD Pro แล้ว
- สีใหม่ Wave Maker มีจำหน่ายบน TRD Pro แล้ว
- ชุดยก TRD 3 นิ้วและแพ็คเกจ Tow Tech มีจำหน่ายแล้วในแพ็คเกจ TRD Rally
- ถังน้ำมันขนาด 32.2 แกลลอนเป็นมาตรฐานสำหรับรถทุกเกรดแล้ว
- ระบบส่งกำลัง i-FORCE MAX® ที่มีให้เลือกใช้ ให้กำลัง 437 แรงม้า แรงบิด 583 ปอนด์-ฟุต
- ความสามารถในการลากจูงสูงสุด 12,000 ปอนด์
Toyota Tundra ในอเมริกาเองมีให้เห็นกัน หลายเกรด ไม่ว่าจะเป็นรุ่น SR-SR5 รุ่น Limited รุ่น 1794 Edition รุ่น Platinum และรุ่น TRD Pro ซึ่งก็ยังมีรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ ไฮบริด i-FORCE MAX ของเขาอีกด้วย การเปลี่ยนแปลงในปี 2026 นั้นจะมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มไลน์และประสิทธิภาพในบางรุ่นในสวยงามน่าใช้ขึ้น

การปรับปรุงภายในที่หรูหรา
Toyota Tundra อัพเกรดปรับโฉมใหม่สำหรับภายในรุ่น Capstone โดยมาพร้อมเบาะนั่งหุ้มหนัง Shale Premium Textured ซึ่งจะเน้นความหรูหราของห้องโดยสารเป็นหลัก
ในรุ่น Limited จะเปลี่ยนเป็นเบาะนั่งหุ้มหนังทั้งสีดำและสีเทา โดดเด่นด้วยลวดลายใหม่ เบาะนั่งหนังสีดำเย็บตะเข็บสีขาว และเบาะนั่งหนังสีเทาเย็บตะเข็บสีดำตัดกันลงตัว
เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารด้านหลัง รุ่นห้องโดยสารแบบสองห้องโดยสารจะมาพร้อมกับช่องระบายอากาศที่คอนโซลกลางด้านหลัง และทุกรุ่นที่มีการควบคุมสภาพอากาศแบบโซนเดียวจะได้รับระบบการจัดการ Smartflow


ฟีเจอร์เสริมเพิ่มประสิทธิภาพ
สำหรับปี 2026 นี้ ในรุ่น TRD Pro สามารถสั่งซื้อพร้อมเบาะนั่ง ISO Dynamic เสริมได้ เช่นเดียวกับที่พบใน Tacoma TRD Pro เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบออฟโรด
นอกจากนี้ ยังมีบันไดข้างไฟฟ้าให้เลือกในรุ่น Platinum และ 1794 TRD Off-Road Package เพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ส่วน SX Package จะมาพร้อมกับล้อขนาด 20
Toyota Tundra ทุกรุ่นจะมาพร้อมถังน้ำมันขนาด 32.2 แกลลอน โดยไม่มีตัวเลือกถังน้ำมันขนาดเล็กให้เลือก ชุดลากพ่วงและหัวต่อแบบ 7/4 พินจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น รวมถึงรุ่น SR ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้น
TRD PRO Color
All-New สำหรับรุ่นปี 2026 คือสี Wave Maker ซึ่งมีเฉพาะในเกรด TRD Pro เท่านั้น
สมรรถนะยังทรงพลังเหมือนเดิม
Toyota Tundra 2026 มาพร้อมต้นกำลังจาก เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ และเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ไฮบริด ทั้งสองเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ 10 สปีด พร้อมระบบอัจฉริยะ (ECTi) เกียร์ 10 สปีดนี้มาพร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์แบบต่อเนื่อง โหมดเปลี่ยนเกียร์แบบขึ้นเนิน/ลงเนิน และโหมดการขับขี่แบบลากจูง
เครื่องยนต์ i-FORCE V6 เทอร์โบคู่ ใช้หัวสูบ DOHC 24 วาล์ว และระบบ Dual VVTi ให้กำลังสูงสุด 389 แรงม้า แรงบิด 479 ปอนด์-ฟุต ส่วนระบบส่งกำลังไฮบริด i-FORCE MAX ให้กำลังรวมสุทธิ 437 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที และแรงบิดอันน่าประทับใจ 583 ปอนด์-ฟุต ที่รอบต่ำ 2,400 รอบต่อนาที
เครื่งยนต์ i-FORCE MAX ผสานเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่เข้ากับมอเตอร์เจนเนอเรเตอร์พร้อมคลัตช์ที่ติดตั้งอยู่ภายในระหว่างเครื่องยนต์และระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มอเตอร์เจนเนอเรเตอร์จะจ่ายกำลังเพิ่มเติมผ่านระบบส่งกำลัง ขณะที่การสตาร์ทเครื่องยนต์ การขับขี่แบบ EV ช่วยในการออกตัวด้วยมอเอร์ไฟฟ้า และมีเรื่อของการเจนไฟกลับตามรูปแบบของระบบไฮบริดที่โตโยต้าชำนาญ

การอัปเกรดระบบออฟโรดให้มีสมรรถนะในลุยมากยิ่งขึ้น
สำหรับชุดแต่ง Standard ในรุ่น Tundra TRD Pro และรถกระบะที่ติดตั้งแพ็คเกจ TRD Off-Road คือการอัปเกรดระบบออฟโรดให้มีสมรรถนะในลุยมากยิ่งขึ้นด้วยการอัพเกรดระบบ Multi-Terrain Select ใหม่ เพื่อช่วยควบคุมการหมุนของล้อบนสภาพพื้นผิวที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
ปรับระบบ Crawl Control ที่ทำหน้าเป็นระบบควบคุมความเร็วต่ำสำหรับออฟโรด ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถมุ่งเน้นไปที่การบังคับเลี้ยว ในขณะที่ Tundra ยังคงรักษาระดับความเร็วที่เลือกได้ 5 ระดับ Downhill Assist Control ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมการลงทางลาดชันที่ท้าทายได้ด้วยการจำกัดความเร็วของรถขณะลงเนินสูง
TRD Pro ที่ติดตั้งแพ็คเกจ TRD Off-Road มาพร้อมเฟืองท้ายแบบล็อกอิเล็กทรอนิกส์เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนในการใช้งาน 4WD แบบ 4Low
นอกจากนี้ยังมีระบบตรวจสอบสภาพพื้นผิวถนน (Multi-Terrain Monitor) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น TRD Pro และรุ่นที่ติดตั้งแพ็คเกจ TRD Off-Road ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบเพื่อหาสิ่งกีดขวางที่อาจเกิดขึ้นได้ เพียงกดปุ่มบนคอนโซล ระบบจะแสดงภาพจากกล้องด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้างบนจอแสดงผลส่วนกลาง
กระบะของ Tundra มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงเป็นพิเศษด้วยโครงสร้างแบบ Sheet-molded Compound (SMC) และคานเสริมแรงอะลูมิเนียม กระบะ SMC ช่วยเพิ่มการปกป้องจากรอยบุบ แรงกระแทก และสนิม เมื่อเทียบกับโครงเหล็กแบบเดิม กระบะ Tundra ทุกรุ่นมาพร้อมฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และฝาท้ายปิดด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบช่วยยกเข่า

ระบบ TSS 2.5 เป็นมาตรฐานในรถ Tundra ทุกรุ่น
รถ Tundra มาพร้อม Toyota Safety Sense 2.5 เป็นมาตรฐานในทุกระดับ ระบบขั้นสูงนี้ประกอบด้วย:
- ระบบป้องกันการชนพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบเรดาร์แบบไดนามิกเต็มช่วงความเร็ว (DRCC)
- ระบบเตือนออกนอกเลนพร้อมระบบช่วยเลี้ยว (LDA พร้อม SA)
- ระบบช่วยติดตามเลน (LTA)
- ระบบช่วยเหลือป้ายจราจร (RSA)
- ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
มาพร้อมฟีเจอร์อำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ระบบช่วยเตือนจุดบอด (BSM) พร้อมระบบเตือนการจราจรขณะถอยหลัง (RCTA) นอกจากนี้ ยังมีระบบช่วยจอดด้านหน้าและด้านหลังพร้อมระบบเบรกอัตโนมัติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อควบคุมการเบรกในกรณีที่อาจเกิดการชนกับวัตถุที่หยุดนิ่ง เช่น ขณะจอดรถ
ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams) ออกแบบมาเพื่อตรวจจับรถที่วิ่งมาข้างหน้าหรือกำลังวิ่งสวนมา และสลับการทำงานระหว่างไฟสูงและไฟต่ำโดยอัตโนมัติ ระบบช่วยควบคุมป้ายจราจร (Road Sign Assist: RSA) ออกแบบมาเพื่อจดจำข้อมูลป้ายจราจรบางอย่างโดยใช้กล้องด้านหน้า และแสดงป้ายจราจรบนจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ (Multi-Information Display: MID)
รถยนต์รุ่น Tundra ทุกรุ่นติดตั้งระบบเตือนเบาะหลัง (Rear Seat Reminder) ของโตโยต้า ระบบนี้ออกแบบมาเพื่อตรวจจับว่ามีการเปิดประตูหลังภายใน 10 นาทีหลังจากสตาร์ทรถ หรือหลังจากสตาร์ทรถแล้วหรือไม่ เมื่อตรวจพบ ระบบจะแจ้งเตือนบนแผงหน้าปัดหลังจากดับเครื่องยนต์ พร้อมเสียงเตือนแบบหลายเสียง
โตโยต้า ออดิโอ มัลติมีเดีย
Tundra เจนเนอเรชั่นที่ 3 ได้เปิดตัวระบบออดิโอ มัลติมีเดีย ของโตโยต้า ซึ่งออกแบบและพัฒนาโดยทีม Connected Technologies ของโตโยต้าในรัฐเท็กซัส ซึ่งได้มีการติดตั้งระบบ A Human Machine Interface (HMI) มอบการโต้ตอบขั้นสูงผ่านการมองเห็น การสัมผัส และเสียงระหว่าคนกับรถอย่างแม่นยำ
หน้าจอสัมผัสมาตรฐานขนาด 8 นิ้ว หรือหน้าจอสัมผัสขนาด 14 นิ้วที่ให้ภาพคมชัดคุณภาพสูง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันการสัมผัสที่ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงฟังก์ชันการบีบและซูมที่ใช้ในโทรศัพท์และแท็บเล็ต ระบบเสียงมัลติมีเดียของ Toyota ยังรองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto™ แบบไร้สายเป็นมาตรฐาน
ออฟชั่นครบ จบแบบจัดเต็ม แต่แน่นนอนว่ารูปร่างหน้าตาขิง Toyota Tundra สำหรับปี 2026 นั้นอาจจะดูไม่ตกต่างจากปี 2025 มากนักแต่ก็คือเป็นรูปร่างหน้าตาที่หลายคนบอกว่าอยากให้เข้ามาโลดแล่นในบ้านเราบ้าง แต่รุ่นใหม่ HILUX TRAVO ที่เห็นแว่ปๆ ก็ถือว่าหล่อไม่เบาเหมือนกัน


