ทดสอบโตโยต้า พรีอุส PHV พลังงานแสงอาทิตย์ตัวใหม่ โปรเจ็คท์ล่าสุด
โตโยต้าลุยรถยนต์พลังงานทดแทนอย่างเต็มที่ กับโปรเจ็คท์ล่าสุด ที่นำมาทดสอบแล้วสำหรับ Prius พลังงานแสงอาทิตย์ตัวใหม่ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยแผงเซลล์แสงอาทิตย์ โดยก่อนหน้านี้มีการทำงานร่วมกับ NEDO ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยและพัฒนาระดับชาติของขอลญี่ปุ่น พร้อมกับ บริษัท ชาร์ปคอร์ปอเรชั่น ซึ่งทั้งหมดอยู่ในช่วงการทดลอง และทะสอบประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงของยานพาหนะที่ใช้ระบบไฟฟ้า โดยติดตั้งแบตเตอรี่พลังงานแสงอาทิตย์ประสิทธิภาพสูงเอาไว้
ความเป็นมาของโครงการเริ่มขึ้นในเดือนเมษายน 2559 NEDO หรือว่า องค์กรวิจัยและพัฒนาระดับชาติจัดตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ยานพาหนะพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจากอุตสาหกรรมและสถาบันการศึกษา ด้วยเป้าหมายของการค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาพลังงานและสิ่งแวดล้อมในภาคการขนส่ง โดยงานวิจัยของคณะกรรมการมุ่งเน้นไปที่ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ชาร์ปและโตโยต้ายังเป็นคณะกรรมการที่มีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน ความสำเร็จของคณะกรรมการได้รวมถึงการประมาณการเกี่ยวกับศักยภาพในการบรรลุผลลัพธ์ หรือความสามารถในการผลิตออกมาใช้งานได้จริง
โตโยต้า พรีอุส PHV โซลาร์เซลล์ใหม่ บางแต่ประสิทธืภาพสูง
ทดสอบโตโยต้า พรีอุส PHV พลังงานแสงอาทิตย์ตัวใหม่ ในครั้งนั้นคณะกรรมการได้มีการเปรียบเทียบพลังงาน 1 กิโลวัตต์ในยานพาหนะแม้จะมีพื้นที่ จำกัด สำหรับการติดตั้งระบบพลังงานโดยใช้โมดูลแบตเตอรี่พลังงานแสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งสามารถออกแบบให้มีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนแปลงพลังงานจากแสงอาทิตย์ เป็นไฟฟ้าได้มากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานระยะเวลาในการใช้ ซึ่งเขาก็จะประมาณจากการลดการปล่อย CO2
แต่สำหรับการทดสอบในครั้งนี้ในอีก 3 ปี ต้อมา โดยโดยใช้รถที่นำมาเป็นตัวอย่างก็คือ โตโยต้า พรีอุส ที่เป็น PHV แต่จะมีแผงโซลาร์เซลล์ที่ออกแบบและสร้างโดย บริษัท ชาร์ป มีลักษณะเป็นฟิล์มบางที่มีความหนาเพียงแค่ 0.03 มม. เท่านั้น และด้วยแผงโซลาร์เซลล์ที่มีความบางพิเศษ ทำให้การออกแบบแผงโซลาร์เซลล์ซึ่งในโตโยต้าพรีอุส จึงมีความยืดหยุ่นในการเพิ่มพื้นที่ในการติดตั้ง ซึ่งไม่เพียงติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่หลังคารถเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงติดตั้งฝากระโปรงหน้าและฝากระโปรงหลังด้วย กำลังไฟฟ้าที่ได้รับคะแนนสูงสุดของรถตัวอย่างคือประมาณ 860 W ซึ่งก่อนหน้านี้ Prius PHV ชาร์จแบตเตอรี่สำหรับขับขี่ขณะที่จอดรถเท่านั้น อย่างไรก็ตามด้วยการปรับปรุงในการผลิตพลังงาน รถที่นำมาสาธิตก็จะใช้ระบบที่คิดค่าใช้จ่ายในขณะที่ยานพาหนะกำลังถูกขับเคลื่อนเท่านั้น สิ่งที่น่าสนใจก็คือการใช้ระบบขับเคลื่อนในโหมด BEV นั้นจะมีประสิทธิภาพมากกขึ้น การทดสอบครั้งนี้ทำให้เห็นว่า ระบบเซลล์ที่ใช้สามารถเปลี่ยนแปลงพลังงานจากแสงอาทิตย์ เป็นไฟฟ้าได้มากกว่า 34 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าการคำนวณจากเดิมถึง 4 เปอร์เซ็นต์
