ทดสอบ Toyota Corolla Altis ใหม่

ทดสอบ Toyota Corolla Altis ใหม่ เครื่องยนต์ไฮบริด ที่มาพร้อมเทคโนโลยี TNGA

Toyota Corolla Altis ใหม่ เผยโฉมออกมาให้เราได้เห็นกันเมื่อวันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา ในรุ่นนี้ถือว่าเป็น Generation ที่ 4 ที่ได้รับการออกแบบใหม่ โดยจุดสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ก็คือการใช้เทคโนโลยี TNGA ซึ่งเป็นระบบที่โตโยต้านำมาใช้กับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นในหลายๆรุ่นของรถยนต์จากค่ายนี้ไม่ว่าจะเป็น Toyota C-HR Toyota Camry 2 รุ่นก่อนหน้านี้ที่ออกมาให้เราได้ พิสูจน์ และสร้างความประทับใจ ในด้านการขับขี่ เป็นอย่างดี

Toyota Corolla Altis ใหม่ มีให้เลือก 3 รุ่นหลักๆก็คือเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร และเครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 ลิตร แต่สำหรับการทดสอบ Toyota Corolla Altis ใหม่ ในครั้งนี้ เรามีโอกาสได้ลองขับในรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด ซึ่งน่าจะถือว่าเป็นรุ่นที่ ผู้ใช้ซึ่งเป็น User จะให้ความสนใจ มากกว่า ในรุ่นที่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตรหรือเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร ไม่นับรวม ในรุ่นที่ทำออกมา สำหรับ บรรดาแท็กซี่ต่างๆก็คือรุ่นลีโม่ 1.6 ลิตร

โดยในรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด ยังแยกออกเป็น 3 รุ่นย่อย นั่นก็คือ Hybrid High Hybrid mid และ Hybrid entry ซึ่งใช้เกียร์อัตโนมัติ ทั้งหมด แตกต่างกันที่เรื่องของอุปกรณ์ตกแต่ง เพียงเล็กน้อย

ภายนอกโฉบเฉี่ยวดูสปอร์ตและดุดันขึ้น

ในการออกแบบ รูปร่างและหน้าตาของ Toyota Corolla Altis ไฮบริดใหม่ นี้ถือว่า ออกแบบได้โดดเด่นและมีความลงตัวกับ Concept ของรถที่เน้นในเรื่องของความประหยัด และรักโลก แต่ Toyota ก็ไม่ได้ทิ้ง มาด ที่ดุดัน Sport และความมีสไตล์ ที่โฉบเฉี่ยว ยังคงมีให้เห็นในตัว Hybrid รวมทั้งในรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินปกติ ไฟหน้าเป็นแอลอีดีโปรเจคเตอร Day Time Running Light แบบเล็บซึ่งจะเปิดปิดโดยอัตโนมัติ ออกแบบให้รูปทรงดูปราดเปรียว นอกจากนี้ ยังเสริมหล่อไว้ด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ไฟท้ายเป็นแบบ LED ซึ่งก็เป็นไปตามรูปแบบของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ

ภายในไม่หวือหวา แต่ใส่ อุปกรณ์แบบจัดเต็ม

ถ้าเราจะพูดโดยภาพรวมของการออกแบบภายใน Toyota Corolla Altis ใหม่ หลายคนอาจจะมองว่ามีส่วนที่ดีและส่วนที่ได้หลายจุด สิ่งหนึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือเรื่องของ การออกแบบตำแหน่ง ของอุปกรณ์ภายในต่างๆ งั้น Toyota ยังคง เน้นในเรื่องของการใช้งานที่สะดวกสบาย หยิบจับง่าย และปรับให้เข้ากับสรีระของผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว

แต่ส่วนหนึ่งที่ยังมองว่าขัดตาเล็กน้อยก็คือเรื่องของการออกแบบ อุปกรณ์ บางชิ้น เป็นต้นว่า ตำแหน่งการวางของจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ซึ่งตั้งอยู่บนช่องแอร์เหนือคอนโซลกลาง อาจจะทำให้เกะกะสายตา ของ ผู้โดยสารตอนหน้า

ซึ่งการปรับตำแหน่งของเบาะนั่งให้ต่ำลงมา ทำให้การมอง หรือทัศนวิสัยของ ผู้โดยสารตอนหน้า ไม่ค่อยเด่นชัดนัก แต่สำหรับ ตำแหน่งการขับขี่ รวมทั้งการปรับ เสา A ด้านหน้า ให้เหมาะสมกว่าเดิม ซึ่งผลดีก็คือทำให้มุมอับสายตาในขณะที่เราเลี้ยว