นิสสันก้าวยุคพลังงานไฟฟ้า

นิสสันก้าวยุคพลังงานไฟฟ้า ภาคพื้นเอเชียและโอเชียเนีย

นิสสันก้าวยุคพลังงานไฟฟ้า ภาคพื้นเอเชียและโอเชียเนีย “อนาคตของการขับเคลื่อนคือ การใช้พลังงานไฟฟ้า การเชื่อมต่อ และระบบขับขี่แบบอัตโนมัติ” นี่คือคำประกาศกล้าของนิสสันในการสร้างสรรค์การขับเคลื่อนสู่อนาคตในฐานะแบรนด์ยานยนต์พลังงานไฟฟ้ารายแรกของโลก นิสสันพิสูจน์ความชำนาญด้านเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าด้วยการส่งยานยนต์ไฟฟ้าไร้มลภาวะกว่า 380,000 คันสู่ท้องถนนทั่วโลกบริษัทฯ มั่นใจในแผนงานที่จะส่งยานยนต์พลังงานไฟฟ้า1 ล้านคันสู่มือผู้บริโภคทั่วโลก ภายในปีงบประมาณ 2565 หรือ ค.ศ. 2022

Printในฐานะผู้นำยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก นิสสันได้รับรางวัลที่แสดงถึงความโดดเด่นของลีฟ จากงานแสดงรถยนต์หลักๆ หลายงาน เช่น รางวัลรถยนต์ปลอดมลพิษโลก (World Green Car award) ปี 2018 งานแสดงรถยนต์นานาชาติในเมืองนิวยอร์ค ซึ่งเป็นเปรียบเสมือนการปูทางให้กับนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลีตี้ (Nissan Intelligent Mobility) สู่เอเชีย และโอเชียเนีย โดยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นิสสันประกาศว่า ลีฟ ใหม่ จะเปิดให้จองได้ภายในปีงบประมาณปีพ.ศ. 2562 ในหลายประเทศในภูมิภาค อันได้แก่ ออสเตรเลีย ฮ่องกง มาเลเซีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และ ไทย โดยตลาดในสองประเทศหลังสุดนี้ได้มียอดการสั่งจองเข้ามาแล้ว

การเปิดตัวของนิสสัน ลีฟ ใหม่ ในภูมิภาคนี้พิสูจน์ได้จากความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการก้าวเข้าสู่ยุคยานยนต์พลังงานไฟฟ้า และจากการวิจัยของนิสสันพบว่า  กว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคในประเทศไทยต้องการซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นรถคันต่อไป และจากลูกค้าถึง 3 ใน 4 ในประเทศฟิลลิปปินส์ คิดจะซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นรถยนต์คันต่อไปเช่นกัน

เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายที่มองไปข้องหน้านี้ นิสสันยังคงสานต่อความสัมพันธ์กับผู้นำอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีความต้องการจะเป็นหนึ่งในผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงภายในปีที่ผ่านมา โดยสำหรับประเทศไทย นิสสันได้ลงนามในข้อตกลงความเข้าใจ หรือ MOU กับการไฟฟ้าภูมิภาคแห่งประเทศไทย เพื่อปูทางในการเพิ่มตัวเลือกของการชาร์จพลังงาน รองรับการมาของนิสสัน ลีฟ ใหม่ในปีงบประมาณนี้ นอกจากนี้นิสสันยังชักชวนผู้บริหารจากองค์กรชั้นนำเยี่ยมชม และเรียนรู้เกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า เช่น รัฐมนตรีการค้าประเทศมาเลเซียที่มาเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของบริษัทนิสสัน

ลำดับเหตุการณ์สำคัญที่จะนำพาผู้ขับขี่ไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนยิ่งกว่า ของนิสสันในรอบปีที่ผ่านมามีดังนี้

มกราคม 2561

นิสสัน ลีฟ ใหม่ ได้รับการยอมรับจากรางวัลระดับโลกถึงสองครั้ง  ซึ่งนิสสัน ลีฟ ใหม่ ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10อันดับแรก ของการจัดอันดับรางวัลรถยนต์โลกแห่งปี หรือ 2018 World Car of the Year โดยได้เข้ารอบสี่คันสุดท้ายในประเภทรถยนต์ไร้มลพิษโลกปี 2018 นี้ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ห้าในประวัติศาสตร์จาก 14 ปีที่มีการมอบรางวัลรถยนต์โลกแห่งปีที่นิสสันได้เข้ารอบสุดท้าย นิสสัน ลีฟ ใหม่ มาจากการผสมผสานของการออกแบบที่น่าตื่นเต้นร่วมกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

นิสสัน ลีฟ ใหม่ เปิดตัวที่งานมอเตอร์โชว์ ประเทศสิงคโปร์ ชูเทคโนโลยีนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลีตี้ อันเป็นวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงวิธีการขับเคลื่อน ขับขี่รถยนต์ และการบูรณาการสู่สังคมของรถยนต์ และลีฟ ใหม่ได้ถ่ายทอดความเป็น นิสสัน อินเทลลิเจนท์ ​โมบิลีตี้ออกมาได้อย่างลงตัว และเป็นวิวัฒนาการขั้นต่อไปของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไร้มลพิษของนิสสัน

Print

Printกุมภาพันธ์ 256

นิสสัน ฟิวเจอร์ส งานที่รวบรวมผู้นำอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่จากภาครัฐบาล และสื่อมวลชนจากทั่วภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย เพื่อมาแลกเปลี่ยนมุมมอง และให้ความรู้เกี่ยวกับอนาคตของการขับเคลื่อนที่นอกเหนือจากยานยนต์ไฟฟ้า

นิสสัน ฟิวเจอร์ส จัดแสดงนิสสัน ลีฟ ใหม่พร้อมกับ หุ่นอีโปโร (EPORO robots) และนิสสัน โน๊ต อี-พาวเวอร์ และระบบขับเคลื่อนแบบ อี-พาวเวอร์ (e-Power) รวมถึงจัดแสดงโครงข่ายพลังงานแบบ Vehicle-to-Home ที่สาธิตให้เห็นว่าเจ้าของรถยนต์นิสสัน ลีฟ สามารถเชื่อมต่อพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ของรถยนต์เข้ากับที่อยู่อาศัยได้

ส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นที่นิสสันต้องการจะสร้างอนาคตของการขับขี่ที่สะอาดกว่า และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีการประกาศแผนวางจำหน่าย นิสสัน ลีฟ ใหม่ในเจ็ดประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียภายในปีงบประมาณหน้า ได้แก่ ออสเตรเลีย ฮ่องกง มาเลเซีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และไทย นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดตัวในตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคอีกด้วย

มีนาคม 2561

นิสสันเผยแผนงานระยะกลางภาย M.O.V.E. 2022 มีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนยานยนต์พลังงานไฟฟ้า รวมถึงขยายการพัฒนาระบบการขับขี่อัตโนมัติ และเร่งสร้างระบบการเชื่อมต่อต่างๆ

ทั้งนี้ นิสสันวางแผนจัดจำหน่ายยานยนต์พลังงานไฟฟ้า รวมถึงยานยนต์ระบบอี-พาวเวอร์ จำนวน 1 ล้านคันต่อปีภายในปีงบประมาณ 2565 ตามที่ตั้งเป้าไว้ สำหรับแผนงานระยะกลาง M.O.V.E. 2022 นิสสันมีแผนงานดังต่อไปนี้

  • การพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าอีกแปดรุ่น โดยพัฒนาจากความสำเร็จที่ได้รับจากนิสสัน ลีฟ ใหม่
  • ผนการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศจีน ภายใต้สินค้าของแบรนด์ท้องถิ่น
  • เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กหรือ “เคย์คาร์” ในประเทศญี่ปุ่น
  • การนำเสนอยานยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบครอสโอเวอร์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถยนต์ต้นแบบ นิสสัน ไอเอ็มเอ็กซ์​ (IMX Concept)
  • นำเสนอยานยนต์พลังงานไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ อินฟินิตี้ (INFINITI) เริ่มจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
  • การนำเสนอส่งรถยนต์​ 20 รุ่นสู่ 20 ตลาดพร้อมเทคโนโลยีการขับแบบอัตโนมัติ
  • มีการเชื่อมต่อ 100% สำหรับรถยนต์ของแบรนด์ นิสสัน อินฟินิตี้ และ ดัทสัน ที่จำหน่ายในตลาดหลักภายในระยะเวลาแผน

เมษายน 2561

นิสสัน ลีฟ ใหม่ ได้รับการขนานนามว่าเป็น “รถยนต์สีเขียวแห่งปี 2018” (2018 World Green Car) จากงานแสดงรถยนต์นานาชาติ ที่ นคร นิวยอร์ค ประจำปี 2561 เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกที่ได้รับรางวัลรถยนต์ปราศจากมลพิษโลกตั้งแต่รางวัลประเภทนี้ได้ถูกตั้งขึ้น โดยตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกของนิสสัน ลีฟ ในปีพ.ศ. 2553 นิสสันส่งรถยนต์ที่ปราศจากมลพิษกว่า 380,000 คันสู่ตลาดโลก เพื่อช่วยลดมลภาวะที่เกิดขึ้นทั่วโลก

พฤษภาคม 2561

นิสสันประกาศความมุ่งมั่นในการก้าวสู่ยุคของยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ ไคดา ฟอรั่ม (KAIDA forum) ในงานไดดา ฟอรั่ม (KAIDA Forum – Korea Automobile Importers and Distributors Association) มีสาระสำคัญในการเจรจาเกี่ยวกับกลยุทธ์ของระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าจากผู้ผลิตชั้นนำ เพื่อสร้างการยอมรับในยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในตลาด รวมถึงเทคโนโลยีแบตเตอรี่พลังงานไฟฟ้า ทั้งนี้นิสสันมุ่งมั่นที่จะสร้างรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้นแก่ลูกค้า เช่นเดียวกับอนาคตของการขับเคลื่อนที่กำลังเข้ามาถึงอย่างรวดเร็ว

มิถุนายน 2561

นิสสันสร้างแรงบันดาลใจด้วยอนาคตของการขับเคลื่อนที่ งาน อินโนฟเฟส อันบาวด์ (Innovfest Unbound) ประกาศวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของยานยนต์ที่งานอินโนฟเฟส อันบาวด์ (Innovfest Unbound) งานแสดงนวัตกรรมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นแกนหลักของความมุ่งมั่นของฝ่ายพัฒนา และวิจัยของนิสสัน ในการวางแผนสนับสนุนยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ไม่เพียงเพื่อใช้สำหรับการคมนาคม แต่ยังเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นเจ้าของยานพาหนะรูปแบบใหม่ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเชื่อมต่อรถยนต์ของตนเข้ากับโครงข่ายพลังงาน ส่งผลให้เมืองและชุมชนสามารถจัดการพลังงานได้ดียิ่งขึ้น

กรกฎาคม 2561นิสสันตอกย้ำความจำเป็นในการร่วมมือกันเพื่อผลักดันสู่ยุคของการใช้พลังงานไฟฟ้า ในงานการประชุมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ประเทศฟิลลิปปินส์ นิสสันเรียกร้องให้เกิดความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตรถยนต์ หน่วยงานรัฐบาล และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรายอื่นๆ เพิ่มขึ้น เพื่อเร่งผลักดันการใช้พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชีย และโอเชียเนีย โดยงานวิจัยที่นิสสันได้จัดทำขึ้นแสดงให้เห็นว่ามีลูกค้า 75% ในประเทศฟิลลิปินส์ที่ให้ความสนใจซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นรถยนต์คันต่อไปหากได้รับผลประโยชน์ช่วยเหลือจากทางภาครัฐ แต่ตัวเลขจะลดลงเหลือ 46% หากไม่มีความช่วยเหลือจากภาครัฐ

สิงหาคม 2561 

การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และ นิสสัน ลงนามในข้อตกลงสำคัญเพื่อประกาศความร่วมมือในการสร้างจุดชาร์จไฟภายในบ้าน เพื่อก่อให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกต้อง สำหรับการเปิดตัวนิสสัน ลีฟ ใหม่ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

กฟน. และนิสสัน จะทำงานร่วมกันในการให้บริการรูปแบบใหม่ๆ คู่มือการใช้และบริการสำหรับระบบชาร์จ การฝึกอบรมทักษะทางเทคนิค การพัฒนาอุปกรณ์ชาร์จ รวมไปถึงระบบชำระค่าไฟฟ้า

นิสสันประกาศ อนาคตของการขับเคลื่อน คือ การใช้พลังงานไฟฟ้า การเชื่อมต่อ และการขับขี่อัตโนมัติ ที่งาน บล็อกนัน ทูมอโรว์ (Blognone Tomorrow) ในกรุงเทพฯ

 นิสสันแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของยานยนต์ และการใช้งานในชีวิตประจำวันที่งาน บล็อกนอน ทูมอโรว์ (Blognone Tomorrow) ในกรุงเทพฯ

วินเซนต์ วิจเนน  รองประธานอาวุโส นิสสัน เอเชีย และโอเชียเนีย (Vincent Wijnen, Senior Vice President, Nissan Asia and Oceania) กล่าวว่า นิสสันเข้าใจว่า ผู้คนในยุคมิลเลนเนี่ยลคาดหวังที่จะมีการเชื่อมต่อตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นระหว่างการขับขี่ ทั้งในกรณีการเป็นผู้โดยสาร หรือผู้ขับขี่ โดยผลจากการวิจัยที่นิสสันจัดทำขึ้น ชี้ให้เห็นว่ากว่า 40% ของผู้บริโภคในประเทศไทยเปิดใจที่จะซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นรถยนต์คันต่อไป

กันยายน 2561

นิสสันนำเสนอวิสัยทัศน์ของอนาคตของการขับเคลื่อน ณ การประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจโลกอาเซียนปี 2018 (World Economic Forum on ASEAN 2018) พร้อมไปกับ ประมุขแห่งรัฐ รัฐมนตรี และนักธุรกิจชั้นนำในการประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจโลกอาเซียนปี2018 ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม

นิสสันร่วมมือกับวูแมนฟอรั่ม เพื่อผลักดันการยอมรับการใช้งานของยานยนต์พลังงานไฟฟ้า นิสสันมีความภูมิใจที่ได้ร่วมกับวูแมนฟอรั่ม ในประเทศสิงคโปร์ (Women’s Forum – Singapore) เพื่อผลักดันการใช้งานของยานยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยคณะทำงานของนิสสันจากทั่วทวีปเอเชียและโอเชียเนียต่างสนับสนุนให้เกิดความเชื่อมโยงเพื่อนวัตกรรมที่ครอบคลุมและการแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับเมืองอัจฉริยะ และอุตสาหกรรมในยุค 4.0

ตุลาคม 2561

นิสสันเผยยอดขายหนึ่งในสามของออสเตรเลียจะมาจากยานยนต์ไฟฟ้า นำโดยการเปิดตัว ลีฟ ใหม่ นิสสันเตรียมพร้อมสำหรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากความสนใจในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในงานแสดงความเป็นผู้นำด้านพลังงานไฟฟ้าที่ซิดนีย์ นิสสัน ประกาศการส่งมอบ ลีฟ ใหม่ ที่จะเริ่มขึ้นในช่วงกลางปี 2562 โดยสเปคของออสเตรเลียจะมีฟังก์ชั่น e-Pedal, Apple CarPlay และ Android Auto โดย ลีฟ ใหม่ จะให้ระยะการขับขี่ที่คาดการณ์ไว้สูงถึง 270 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (โดยมาตรฐานการวัดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและการค่ามลพิษ – WLTP) จากแบตเตอรี่ขนาด 40kWh

นิสสัน ประกาศ ” พลังงานไฟฟ้า การเชื่อมต่อ และระบบขับขี่อัตโนมัติ คืออนาคตของยานยนต์” ที่ งาน อนาไลซิส เอเชีย (Analyse Asia) ที่ อนาไลซิส เอเชีย (Analyse Asia) พ็อดคาสท์ธุรกิจยอดนิยมที่ให้ความสำคัญไปที่อนาคตของการเคลื่อนที่ในเอเชีย โดยนิสสันได้กล่าวถึงอนาคตของการเคลื่อนที่ของภูมิภาคไว้ในตอนที่ 268 ว่า“นิสสันอยู่แถวหน้าในเรื่องของยานยนต์ไฟฟ้า” โดยมีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้านานกว่าใครๆ และได้รับการกล่าวขานว่าเป็นแบรนด์แรกที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ขณะนี้มีนิสสัน ลีฟ มากกว่า 380,000 คันบนท้องถนน เมื่อนับรวมกับรถยนต์ในแบรนด์พันธมิตรแล้ว นิสสัน เผยว่า “แผนในด้านยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับอนาคตของเรามีความน่าเชื่อถือมากกว่าแบรนด์อื่นๆ”

รัฐมนตรีด้านการค้าของมาเลเซียเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ระดับโลกของนิสสัน เพื่อปูทางสู่การเปิดตัวลีฟ ที่มาเลเซียในอนาคต เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ ฯพณฯ ดาโต๊ะ แดเรลล์ ลีคกิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมของมาเลเซีย (His Excellency Datuk Darell Leiking, Minister of International Trade and Industry of Malaysia) ได้มาเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ระดับโลกของนิสสัน ที่เมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น โดยมีคณะผู้แทนระดับสูงมาเลเซียจากสำนักงานพัฒนาการลงทุนมาเลเซีย (MIDA) และความร่วมมือพัฒนาการค้ากับต่างประเทศของมาเลเซีย โดยนิสสันได้นำเสนอเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าเพื่อสนับสนุนความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างนิสสันและมาเลเซีย และปูทางสำหรับการเปิดตัวลีฟ ที่มาเลเซียในอนาคต

พฤศจิกายน 2561

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นิสสัน ลีฟ ใหม่ ได้ทำการเปิดตัวที่ แทกู อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิวเจอร์ ออโต้ เอ็กซ์โป (Daegu International Future Auto EXPO) โดยเปิดรับจองล่วงหน้าที่ศูนย์บริการและผู้จำหน่ายฯ ของนิสสัน พร้อมมอบสิทธิพิเศษ รวมถึงค่าบริการชาร์จกระแสไฟฟ้าเป็นจำนวนกว่า 400,000 วอน สำหรับลูกค้าที่จองล่วงหน้า

ลีฟ ใหม่ จัดแสดง ณ งานกัวลาลัมเปอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ 2018 (Kuala Lumpur International Motor Show 2018) นิสสัน จัดแสดงลีฟ ใหม่ และระบบอี-พาวเวอร์ (e-POWER) ที่งานกัวลาลัมเปอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ควบคู่ไปกับรถยนต์นิสสันรุ่นอื่นๆที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีอัจฉริยะ

นิสสัน ลีฟ ได้รับรางวัลนวัตกรรมสีเขียวที่ออสเตรเลีย ก้บรางวัลนวัตกรรมรถยนต์สีเขียวแห่งปี (Car of the Year Green Innovation award) จาก Drive.com.au ด้วยความสามารถที่เหนือกว่าการเป็นยานยนต์ไฟฟ้า ที่มาพร้อมด้วยแบตเตอรี่ความจุสูงที่พร้อมถ่ายโอนพลังงานให้กลับเข้าสู่ครัวเรือนผ่านโครงข่ายพลังงานได้อีกด้วย

ธันวาคม 2561

นิสสัน เปิดรับจองนิสสัน ลีฟ ใหม่  ที่ประเทศไทย เปิดตัวครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์ หรือ ไทยแลนด์ มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018  ลูกค้าสามารถจอง ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,990,000 บาท พร้อมส่งมอบในเดือนเมษายน พ.ศ. 2562 และรับประกันรถยนต์เป็นเวลา 3 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร รับประกันระบบรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเวลา 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร และรับประกันการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่เป็นเวลา 8 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร พร้อมกันนี้ นิสสันได้ประกาศผู้จำหน่ายที่ได้รับการรับรองจำนวน 33 แห่งทั่วประเทศ ที่มีความพร้อมในการเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ วิศวกรที่มีทักษะ และพร้อมด้วยบริการหลังการขาย

แม้ในปีที่ผ่านมา ได้เกิดความคืบหน้ามากมายเกี่ยวกับการขับเคลื่อนไปสู่เรื่องของยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย แต่ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่พร้อมจะเกิดขึ้นในปีนี้ อันสืบเนื่องจากผู้ขับขี่ในภูมิภาค นิสสันเองได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในปีที่ผ่านมาอย่างไร้ข้อสงสัย พร้อมแสดงความมุ่งมั่นของบริษัทฯที่จะผลักดันยานยนต์พลังงานไฟฟ้าให้กับผู้กำหนดนโยบาย รวมถึงการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและผู้บริโภคในทิศทางที่ถูกต้อง