Vision-S Concept ต้นแบบ รถยนต์ไฟฟ้า SONY ที่คุณต้องอึ้ง
เอาแล้วไง…งานนี้บอกเลยว่า ค่ายรถยนต์ต้องหนาวๆ ร้อนๆ และเสียวสันหลังวูบ อย่างแน่นอน เมื่อธุรกิจผลิตจำหน่ายรถยนต์ ขยายวงโคจรไปถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ในด้านอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีความบันเทิง ในรูปแบบดิจิตอลทั้งหลาย รวมทั้งยังเป็นรายใหญ่ที่ให้บริการทางการเงินของญี่ปุ่น ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน Consumer Electronics Show 2020 หรืองานจัดแสดงผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์ที่จะจัดขึ้นในลาสเวกัส วันที่ 7-10 มกราคม 2020 ที่ผ่านมา ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ Vision-S Concept ต้นแบบ รถยนต์ไฟฟ้า จาก SONY
รถยนต์ไฟฟ้า SONY Vision-S Conceptที่ Sonyสร้างขึ้นด้วยความร่วมมือกับซัพพลายเออร์ด้านยานยนต์หลายบริษัท ไม่ว่าจะเป็น Bosch, Magna Steyr และ Continental
SONY Vision-S Concept แรงด้วยพลังงานไฟฟ้า
ชื่อเสียงของ Sony ที่มีมาอย่างยาวนาน เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยยืนยันความสำเร็จ และความตั้งใจในการผลิตสินค้า ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งใดก็ตาม ซึ่งครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นงานใหญ่ที่ Sony ซุ่มเงียบเอาไว้ โดยใช้แนวคิดของรถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งมีมอเตอร์ขนาดไฟฟ้า 200 kW ถึงสองตัว โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 149 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือเฉียดๆ 240 กม./ชม.ทีเดียว
สามารถทำอัตราเร่งจากจุดหยุดนึ่งถึงความเร็วที่ 60 ไมล์/ชม. (96กม./ชม.) ในเวลาเพียงแค่ 4.8 วินาที ช่วงล่างให้ความนุ่มนวลด้วยระบบรองรับน้ำหนักแบบ “ถุงลม” หรือว่า กันสะเทือนแบบ Air Suspension น้ำหนักโดยรวมของตัรถทั้งหมดอยู่ที่ 5180 ปอนด์ หรือ 2,331 กก.
Vision-S Concept ต้นแบบของการพัฒนาเทคโนโลยี
รถยนต์ไฟฟ้า SONY Vision-S นั้นถือเป็นแพลตฟอร์มสำหรับ บริษัท Sony ในการพัฒนาชุดของเทคโนโลยีการเคลื่อนไหว ในอนาคตซึ่งรวมถึงฟีเจอร์การช่วยเหลือผู้ขับขี่ระดับ 2 ที่ได้มีการใส่มาไว้ในรถด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน หรือที่เราจักกันในชื่อ Adaptive CruiscControl, การเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ และการจอดรถอัตโนมัติซึ่งมีเซ็นเซอร์ 33 ตัวติดตั้งทั้งภายในและภายนอกรถ
อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าสังเกตมากที่สุดคือกล้องที่นำมาติดตั้งใน SONY Vision-S ซึ่งทั้งหมดก็เป็นของ Sony ซึ่งจะโชว์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพ ที่สามารถนำมาใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม และแน่นอนงานนี้จะเป็นการช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ และประกาศตัวในและการก้าวเข้าสู่ธุรกิจกล้องติดรถยนต์คุณภาพสูง ซึ่งก็เป็นทางเลือกที่สำคัญให้ค่ายรถยนต์เห็นถึงศักยภาพของ Sony ด้วย
LiDAR ดวงตาอัฉริยะ อนาคตความปลอดภัยขั้นสูง
Vision-S ยังติดตั้งระบบส่งสัญญาณด้วย เรดาร์, อุลตร้าโซนิกและLiDARระบบโซลิดสเตต หรือLight Detection and Rangingเป็นการจับภาพด้วยแสง (detection) และประเมินได้ว่าสิ่งที่มองเห็นนั้นอยู่ห่างเท่าไหร่ (ranging) ซึ่งอันนี้น่าสนใจที่สุดเนื่องจาก LiDARโซลิดสเตต นั้นมีราคาถูกกว่า แถมยังมีประสิทธิภาพน่าเชื่อถือกว่าและกะทัดรัดกว่า LiDAR ที่ใช้ระบบไฟฟ้าแบบดั้งเดิม โดย LiDAR แบบดั้งเดิมซึ่งเป็นเหมือนเรดาร์จับภาพและฉายออกมาเป็นแบบ 3 มิติสแกนด้วยเลเซอร์โดยละเอียดแต่ก็ขึ้นอยู่กับของสภาพแวดล้อมและการขับขี่ รวมถึงวัตถุที่เคลื่อนไหวต้องมีขนาดใหญ่ แต่ถ้าเป็น LiDARรุ่นใหม่ ราคาค่อนข้างสูง แต่ก็จะประมวลผลได้ละเอียดและซับซ้อนกว่า ถ้า Sony สามารถผลิต LiDAR แบบโซลิดสเตตได้มันจะเป็นประโยชน์สำหรับ บริษัทด้าน เทคโนโลยียานยนต์ แต่แนนอนว่าอาจต้องใช้ต้นทุนในผลิตและทดลองค่อนข้างสูง
หลายแห่งมองว่าเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่เห็น Sony กระโดดเข้าสู่ธุรกิจเทคโนโลยีที่ค่อนข้างห่างไกลของ บริษัท แม้ว่าเทคโนโลยีจะได้รับความสนใจก็ตาม โดยโซนี่สตูดิโอภาพยนตร์และธุรกิจเพลงเป็นศูนย์กำไรหลักของบริษัทอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามโซนี่ อาจมองเห็นโอกาสที่ดีสำหรับวงการรถยนต์จนอดใจไม่ไหวที่จะลงมาคลุกวงในด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปอีกขั้น
ภายในยังใส่เทคโนโลยีที่ Sonyมีใช้อยู่แล้ว
นอกเหนือจากเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ Sony กำลังใช้ Vision-S เพื่อแสดงเทคโนโลยีอื่นๆ ที่สร้างขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ การออกแบบภายใน Vision-S นั้นถูกติดตั้งกล้องที่เรียกว่า Time-of-flight ที่สามารถตรวจจับท่าทางและตำแหน่งของผู้โดยสาร ซึ่งสามารถใช้งาน และควบคุมได้ที่หน้าจอแดชบอร์ดขนาดใหญ่ รวมถึงกล้องระบบ 360 Reality Audio ซึ่งทั้งหมดนี่ก็นำมาจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ของ Sony นั่นเอง
นอกจากนี้ Vision-S ยังมีการเชื่อมต่อกับภายนอกอยู่ตลอดเวลา แถมยังเสริมหน้าจอสำหรับผู้โดยสารเบาะหลัง ซึ่งทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นถึงแนวคิดหลักของรถต้นแบบ โดยฝีมือของผู้เชี่ยวชาญในด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และการเชื่อมต่อ ซึ่ง Sony เองก็กล่าวว่าในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะมีการผลิตรถยนต์ในรูปแบบนี้ขึ้นมาใช้งานอย่างจริงจัง
รถแนวคิดนี้อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความตั้งใจของ Sony ในการเริ่มพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ หรือเป็นไปได้ที่ค่ายเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อยากโชว์ศักยภาพในด้านวิศวกรรมยานยนต์ในยุคของการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าผู้ผลิตรายไหนที่สามารถสร้างยานยนต์ที่เพียบพร้อมได้ถ้ามีศักยภาพ แต่สุดท้ายก็อย่าคาดหวังว่าจะมีข้อมูลราคาหรือวันที่ขาย ในฐานะโฆษกของ Sony บอกกับเดอะนิวยอร์กไทมส์ บริษัทฯ ไม่มีความตั้งใจที่จะสร้างรถยนต์เป็นของตัวเองอย่างแน่นอน
