รถไฟหัวกระสุนจากจีน VS ชินกันเซ็นจากญี่ปุ่น จะเลือกขึ้นคันไหนดี
การเดินทางที่เร็วที่สุด เท่าที่คนเราจะสามารถเข้าถึงได้ ก็คงหนีไม่พ้นการเดินทางโดยเครื่องบิน แต่สำหรับที่ ไม่ชินกับการเดินทางบนความสูงหลายพันฟุต ก็มีทางเลือกที่จะช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้นั่นก็คือ “รถไฟความเร็วสูง” ล่าสุด 2 ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำของการออกแบบรถไฟความเร็วสูง มีการสร้างต้นแบบแห่งอนาคต หวังที่จะช่วยให้การเดินทางภาคพื้นดินได้รวดเร็วปานหัวกระสุน นั่นก็คือ ประเทศจีน และประเทศญี่ปุ่น ซึ่งงานนี้เราจะพาไปเปรียบเทียบกันว่า ระหว่าง รถไฟหัวกระสุนจากจีน VS ชินกันเซ็นจากญี่ปุ่น จะเลือกขึ้นคันไหนดี ที่คุณคิดว่าน่าจะสร้างความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว ความประหยัดเวลาและความปลอดภัยได้ดีที่สุดสำหรับอนาคต
รถไฟหัวกระสุนใหม่จากจีนทยานด้วยความเร็ว 373 ไมล์ต่อชั่วโมง
บริษัท รถไฟของรัฐในประเทศจีนได้สร้างต้นแบบสำหรับรถไฟ Maglev ที่เร็วที่สุด ต้นแบบใหม่ที่สร้างขึ้นโดย China Railway Rolling Stock Corporation (CRRC) ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับผู้โดยสารที่ความเร็วสูงสุดถึง 373 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือราว 600 กม. / ชม.ซึ่งจีนเองก็หวังหวังว่ารถไฟจะให้บริการผู้โดยสารในปี 2564
เป็นการเดินทางที่รวดเร็วทันใจ ตัวอย่างปักกิ่งจากเซี่ยงไฮ้ ระยะทางประมาณ 1,200 กว่ากิโลเมตร ถ้ารวมเวลาในการเตรียมความพร้อมแล้วเครื่องบินใช้เวลาประมาณ 4.5 ชั่วโมง ส่วนระไฟความเร็วสูงปกติใช้เวลาประมาณ 5.5 ชั่วโมง แต่สำหรับรถไฟหัวกระสุนใหม่ที่ว่านี้จะใช้เวลาเพียงประมาณ 3.5 ชั่วโมงเท่านั่น
รองหัวหน้า CRRC วิศวกร Ding Sansan หัวหน้าทีมวิจัยและพัฒนาของรถไฟกล่าวในแถลงการณ์ต่อ CNN ต้นแบบนั้นอยู่ในระหว่างการพัฒนา ประมาณสามปีที่ผ่านมา ทีมของเขาได้สร้างตัวถังรถไฟที่มีน้ำหนักเบาและมีความแข็งแรงสูงซึ่งจะทำหน้าที่เป็นรากฐานการทดสอบสำหรับต้นแบบอีกห้าตัวหลังจากนี้ โดยทีมงานกำลังดำเนินการ CRRC Qingdao Sifang ซึ่งเป็น บริษัท ย่อยของ CRRC จะสร้างศูนย์ทดลองและศูนย์การผลิตทดลองใช้ Maglev ความเร็วสูงภายในสิ้นปี 2562 ต้นแบบใหม่คือการที่จีนเข้าสู่การต่อสู้ระดับภูมิภาคเพื่ออำนาจสูงสุดรถไฟความเร็วสูง
รถไฟชินกันเซ็นญี่ปุ่นจะแล้วเสร็จปี 2030 เร็ว 224 ไมล์ต่อชั่วโมง
โปรเจ็คท์ความแรงจากแดนซากุระ ก็คือรถไฟหัวกระสุนใหม่ของญี่ปุ่น หรือที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีในนามของ “ชินกันเซ็น” ซึ่งอาจเป็นระบบรถไฟระดับภูมิภาคที่เชื่อว่าคนไทย และคนที่เคยไปญุ่ปุ่นรู้จักกันดี ซึ่งรถไฟชินกันเซ็นเองมักจะถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความมีประสิทธิภาพของญี่ปุ่น ช่วยให้เข้าถึงความทันสมัยของประเทศได้อย่างชัดเจน ซึ่งล่าสุด บริษัท รถไฟญี่ปุ่นตะวันออก (JR-East) กำลังผลักดันระบบให้ดียิ่งขึ้นด้วยรถไฟหัวกระสุนที่รู้จักกันในชื่อ Alfa-X ซึ่งสามารถเดินทางด้วยความเร็วสูงสุด 224 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือราว 360 กม./ชม.
JR-East เป็นหนึ่งในเจ็ด บริษัท ซึ่งควบคุมรถไฟหัวกระสุนของญี่ปุ่นภายใต้การอุปถัมภ์ของกลุ่ม Japan Railways ของรัฐบาล รถไฟจะถูกสร้างโดย Kawasaki Heavy Industries และ บริษัท Hitachi โดยเริ่มทดสอบรถไฟในครั้งแรกไปเป็นที่เรียบร้อยและมีเป้าหมายให้บริการในปี 2030 ซึ่งในระหว่างการทดสอบ วิศวกรหวังว่าจะผลักดัน Alfa-X ให้สามารถทำความเร็วทะลุผ่านไปถึง 248 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือราว 400 กม./ชม. เล็กน้อย การทดสอบจะดำเนินการสัปดาห์ละสองครั้งเป็นเวลาสามปีถัดไป
ปี 2030 หรืออีกสิบเอ็ดปีข้างหน้าอาจฟังดูเป็นเวลาที่ยาวนานเกินไป การสร้างรถไฟความเร็วสูงอาจไม่ใช่เรื่องหลักในการใช้เวลา แต่การผนวกรถไฟใหม่เข้ากับระบบที่ซับซ้อนของการเดินรถไฟในญี่ปุ่นนั่นแหละต้องใช้เวลานานพอสมควร ซึ่ง Alfa-X มีความยาวกว่ารถไฟในปัจจุบันถึง 51 ฟุต หรือราว 16 ม. และมีจมูกยาว 72 ฟุต (22 ม.) ซึ่งเป็นการทดลองเพื่อดูว่ามันเงียบกว่าหรือไม่เมื่อนำเข้าไปทดสอบในอุโมงค์ลม
อย่างไรก็ตามเสียงจากชินคันเซ็นถือเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อระบบรถไฟได้ขยายเข้าไปในพื้นที่ชนบทของประเทศ ที่มีความเงียบสงบ หากไม่มีปรับปรุงในเรื่องของเสียงในขณะที่รถไปได้เร็วขึ้น ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหารุนแรงเกี่ยวกับมลภาวะของเสียงได้
รถไฟหัวกระสุนจากจีน VS ชินกันเซ็นจากญี่ปุ่น จะเลือกขึ้นคันไหนดี อาจไม่มีบทสรุปที่แน่ชัด จนกว่าจะมีการทดสอบและนำออกมาวิ่งจริงในระบบขนส่งมวลชน การจัดการเรื่องระบบและแผนงานที่ดีจะช่วยให้การเดินทางของคุณมีความสะดวกสบาย รวดเร็ว และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าจะให้เลือกขึ้นตอนนี้ คุณคิดว่าจะกระโดดคร่อมหัวกระสุนความเร็วสูงจากจีน หรือญี่ปุ่น ลองคิดกันดู…?
##########################################
##############################################
รถไฟหัวกระสุนจากจีน VS ชินกันเซ็นจากญี่ปุ่น จะเลือกขึ้นคันไหนดี
การเดินทางที่เร็วที่สุด เท่าที่คนเราจะสามารถเข้าถึงได้ ก็คงหนีไม่พ้นการเดินทางโดยเครื่องบิน แต่สำหรับที่ ไม่ชินกับการเดินทางบนความสูงหลายพันฟุต ก็มีทางเลือกที่จะช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้นั่นก็คือ “รถไฟความเร็วสูง” ล่าสุด 2 ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำของการออกแบบรถไฟความเร็วสูง มีการสร้างต้นแบบแห่งอนาคต หวังที่จะช่วยให้การเดินทางภาคพื้นดินได้รวดเร็วปานหัวกระสุน นั่นก็คือ ประเทศจีน และประเทศญี่ปุ่น ซึ่งงานนี้เราจะพาไปเปรียบเทียบกันว่า ระหว่าง รถไฟหัวกระสุนจากจีน VS ชินกันเซ็นจากญี่ปุ่น จะเลือกขึ้นคันไหนดี ที่คุณคิดว่าน่าจะสร้างความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว ความประหยัดเวลาและความปลอดภัยได้ดีที่สุดสำหรับอนาคต
รถไฟหัวกระสุนใหม่จากจีนทยานด้วยความเร็ว 373 ไมล์ต่อชั่วโมง
บริษัท รถไฟของรัฐในประเทศจีนได้สร้างต้นแบบสำหรับรถไฟ Maglev ที่เร็วที่สุด ต้นแบบใหม่ที่สร้างขึ้นโดย China Railway Rolling Stock Corporation (CRRC) ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับผู้โดยสารที่ความเร็วสูงสุดถึง 373 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือราว 600 กม. / ชม.ซึ่งจีนเองก็หวังหวังว่ารถไฟจะให้บริการผู้โดยสารในปี 2564
เป็นการเดินทางที่รวดเร็วทันใจ ตัวอย่างปักกิ่งจากเซี่ยงไฮ้ ระยะทางประมาณ 1,200 กว่ากิโลเมตร ถ้ารวมเวลาในการเตรียมความพร้อมแล้วเครื่องบินใช้เวลาประมาณ 4.5 ชั่วโมง ส่วนระไฟความเร็วสูงปกติใช้เวลาประมาณ 5.5 ชั่วโมง แต่สำหรับรถไฟหัวกระสุนใหม่ที่ว่านี้จะใช้เวลาเพียงประมาณ 3.5 ชั่วโมงเท่านั่น
รองหัวหน้า CRRC วิศวกร Ding Sansan หัวหน้าทีมวิจัยและพัฒนาของรถไฟกล่าวในแถลงการณ์ต่อ CNN ต้นแบบนั้นอยู่ในระหว่างการพัฒนาประมาณสามปีที่ผ่านมา ทีมของเขาได้สร้างตัวถังรถไฟที่มีน้ำหนักเบาและมีความแข็งแรงสูงซึ่งจะทำหน้าที่เป็นรากฐานการทดสอบสำหรับต้นแบบอีกห้าตัวหลังจากนี้ โดยทีมงานกำลังดำเนินการ CRRC Qingdao Sifang ซึ่งเป็น บริษัท ย่อยของ CRRC จะสร้างศูนย์ทดลองและศูนย์การผลิตทดลองใช้ Maglev ความเร็วสูงภายในสิ้นปี 2562 ต้นแบบใหม่คือการที่จีนเข้าสู่การต่อสู้ระดับภูมิภาคเพื่ออำนาจสูงสุดรถไฟความเร็วสูง
รถไฟชินกันเซ็นญี่ปุ่นจะแล้วเสร็จปี 2030 เร็ว 224 ไมล์ต่อชั่วโมง
โปรเจ็คท์ความแรงจะแดนซากุระ ก็คือรถไฟหัวกระสุนใหม่ของญี่ปุ่น หรือที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีในนามของ “ชินกันเซ็น” ซึ่งอาจเป็นระบบรถไฟระดับภูมิภาคที่เชื่อว่าคนไทย และคนที่เคยไปญุ่ปุ่นรู้จักกันดี ซึ่งรถไฟชินคันเซ็นเองมักจะถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความมีประสิทธิภาพของญี่ปุ่น ช่วยให้เข้าถึงความทันสมัยของประเทศได้อย่างชัดเจน ซึ่งล่าสุด บริษัท รถไฟญี่ปุ่นตะวันออก (JR-East) กำลังผลักดันระบบให้ดียิ่งขึ้นด้วยรถไฟหัวกระสุนที่รู้จักกันในชื่อ Alfa-X ซึ่งสามารถเดินทางด้วยความเร็วสูงสุด 224 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือราว 360 กม./ชม.
JR-East เป็นหนึ่งในเจ็ด บริษัท ซึ่งควบคุมรถไฟหัวกระสุนของญี่ปุ่นภายใต้การอุปถัมภ์ของกลุ่ม Japan Railways ของรัฐบาล รถไฟจะถูกสร้างโดย Kawasaki Heavy Industries และ บริษัท Hitachi โดยเริ่มทดสอบรถไฟในครั้งแรกไปเป็นที่เรียบร้อยและมีเป้าหมายให้บริการในปี 2030 ซึ่งในระหว่างการทดสอบ วิศวกรหวังว่าจะผลักดัน Alfa-X ให้สามารถทำความเร็วทะลุผ่านไปถึง 248 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือราว 400 กม./ชม. เล็กน้อย การทดสอบจะดำเนินการสัปดาห์ละสองครั้งเป็นเวลาสามปีถัดไป
ปี 2030 หรืออีกสิบเอ็ดปีข้างหน้าอาจฟังดูเป็นเวลาที่ยาวนานเกินไป การสร้างรถไฟความเร็วสูงอาจไม่ใช่เรื่องหลักในการใช้เวลา แต่การผนวกรถไฟใหม่เข้ากับระบบที่ซับซ้อนของญี่ปุ่นนั่นแหละต้องใช้เวลานานพอสมควร ซึ่ง Alfa-X มีความยาวกว่ารถไฟในปัจจุบันถึง 51 ฟุต หรือราว 16 ม. และมีจมูกยาว 72 ฟุต (22 ม.) ซึ่งเป็นการทดลองเพื่อดูว่ามันเงียบกว่าหรือไม่เมื่อนำเข้าไปทดสอบในอุโมงค์ลม
อย่างไรก็ตามเสียงจากชินคันเซ็นถือเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อระบบรถไฟได้ขยายเข้าไปในพื้นที่ชนบทของประเทศ ที่มีความเงียบสงบ หากไม่มีปรับปรุงในเรื่องของเสียงในขณะที่รถไปได้เร็วขึ้น ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหารุนแรงเกี่ยวกับมลภาวะของเสียงได้
รถไฟหัวกระสุนจากจีน VS ชินกันเซ็นจากญี่ปุ่น จะเลือกขึ้นคันไหนดี อาจไม่มีบทสรุปที่แน่ชัด จนกว่าจะมีการทดสอบและนำออกมาวิ่งจริงในระบบขนส่งมวลชน การจัดการเรื่องระบบและแผนงานที่ดีจะช่วยให้การเดินทางของคุณมีความสะดวกสบาย รวดเร็ว และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าจะให้เลือกขึ้นตอนนี้ คุณคิดว่าจะกระโดดคร่อมหัวกระสุนความเร็วสูงจากจีน หรือญี่ปุ่น ลองคิดกันดู…?