“ฮอนด้า” ริเริ่มแอปพลิเคชัน CANDEE ร่วมกับ “บิทคับ”

“ฮอนด้า” ริเริ่มแอปพลิเคชัน CANDEE ร่วมกับ “บิทคับ”
ต่อยอดเทคโนโลยีบล็อกเชนสู่แพลตฟอร์มบันทึกความดีและสุขภาพ
พร้อมจับมือ “คณะเทคนิคการแพทย์ ม.มหิดล”
คอมมิวนิตี้พาร์ตเนอร์รายแรก สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร (กลาง) ประธานคณะกรรมการ ร่วมกับ บริษัท บิทคับ บล็อกเชน เทคโนโลยี จำกัด นำโดย นายภาสกร ปานนอก (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล นำโดย ศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรเฉลิม อิศรางกูร ณ อยุธยา (ขวา) คณบดีคณะเทคนิคการแพทย์ ลงนามความร่วมมือใน แอปพลิเคชัน CANDEE แพลตฟอร์มจากเทคโนโลยีบล็อกเชนในการบันทึกความดีและสุขภาพเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ณ Bitkub M Social ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์

วิดีโอเกี่ยวกับ CANDEE  Link: https://youtu.be/f92AafqnWmY

เทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล เนื่องจากการทำธุรกรรมมีความสะดวก ปลอดภัย และน่าเชื่อถือสูง ภาคส่วนต่างๆ จึงให้ความสนใจและนำมาใช้ในหลากหลายกิจกรรม เช่นเดียวกับ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานคณะกรรมการ ที่ได้ริเริ่มแอปพลิเคชัน CANDEE โดย “CAN” มาจาก “สามารถ” และ “DEE” มาจาก “ทำความดี” เพื่อให้การทำความดีและการใส่ใจสุขภาพเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้และทำได้โดยง่าย และจะได้รับโทเคนดิจิทัลจากการร่วมกิจกรรม CSR และกิจกรรมเพื่อสุขภาพของคนในองค์กร โดยร่วมกับ บริษัท บิทคับ บล็อกเชน เทคโนโลยี จำกัด บริษัทที่มีความแข็งแกร่งและเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีบล็อกเชนในการพัฒนาระบบแอปพลิเคชัน และขยายต่อยอดการใช้งานสู่องค์กรภายนอก ไปยังคณะเทคนิคการแพทย์มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นคอมมิวนิตี้พาร์ตเนอร์รายแรกของ CANDEE Ecosystem

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานคณะกรรมการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้าในฐานะผู้ริเริ่มแอปพลิเคชัน CANDEE ซึ่งเกิดจากจุดเริ่มต้นเมื่อ 3 ปีก่อน โดยการรวมกลุ่มคนรุ่นใหม่จากหลายหน่วยงานในองค์กรให้มาเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นเทคโนโลยีหลักในอนาคต และจะสามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจฮอนด้าได้ จึงเกิด Blockchain Innovative Technology (BIT) ขึ้น ซึ่งถือเป็นโปรเจกต์ของคนรุ่นใหม่ในฮอนด้าที่ได้เริ่มต้นศึกษาเทคโนโลยีบล็อกเชน และท้ายสุดได้เลือกไอเดีย Time Banking มาพัฒนาจนเกิดเป็นแอปพลิเคชัน CANDEE โดยได้ร่วมมือกับบิทคับ พาร์ตเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องบล็อกเชน ช่วยให้คำปรึกษาและบริการด้านเทคโนโลยี ร่วมพัฒนาระบบการทำงานของ CANDEE ให้ตอบโจทย์และง่ายต่อการใช้งาน และได้เพิ่มเติมเทรนด์การดูแลสุขภาพซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในยุคโควิด-19 โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มพนักงานฮอนด้า ผมมองว่าความดีไม่ควรจำกัดในกลุ่มเล็กๆ สามารถขยายออกไปให้เกิดเป็นคอมมิวนิตี้ที่ใหญ่ขึ้นได้ เพื่อให้เกิด Ecosystem ของ CANDEE ในการร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ส่งเสริมการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้ และสร้างความคุ้นเคยในการสัมผัสกับเทคโนโลยีบล็อกเชนอีกทางหนึ่ง”

แอปพลิเคชัน CANDEE เป็นการบันทึกและสะสมกิจกรรมการทำความดีและกิจกรรมเพื่อสุขภาพของพนักงานฮอนด้าผ่านโทเคนทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่ โซเชียลโทเคน (Social Token)  คอมปะนีโทเคน (Company Token) ฟิตโทเคน (Fit Token)  และฮาร์ตโทเคน (Heart Token) โดยฮอนด้าเริ่มใช้งานแอปพลิเคชัน CANDEE ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา และได้รับความสนใจจากพนักงานเป็นจำนวนมาก และมีแผนขยายคอมมิวนิตี้ของ CANDEE ให้ใหญ่ขึ้น

นายภาสกร ปานนอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ บล็อกเชน เทคโนโลยี จำกัด กล่าว ว่า “การร่วมมือกับฮอนด้าเป็นการตอบโจทย์การมองหาพันธมิตรทางธุรกิจ โดย CANDEE เป็นแอปพลิเคชันที่ออกแบบให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่น่าสนใจ โดยเริ่มจากการให้พนักงานฮอนด้ามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมพร้อมรับโทเคนดิจิทัลเป็นรางวัลก่อน ซึ่งผมเชื่อว่าจะสามารถต่อยอดเป็นประโยชน์ในวงกว้าง โดยเทคโนโลยีจากทาง Bitkub Chain จะมีส่วนช่วยในการส่งเสริมการใช้งาน CANDEE อย่างลงตัว ด้วยการสร้างบทบาทใหม่ ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน CANDEE ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการบันทึกข้อมูล หรือการเก็บและนำโทเคน CANDEE ไปต่อยอดการใช้งานเพิ่มเติมในอนาคต พร้อมทั้งสร้าง Use Case ใหม่ และจะเป็นเรื่องดีต่อ Ecosystem บน Bitkub Chain”

ด้านคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้มีแนวคิดเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในเรื่องสุขภาพตั้งแต่พ.ศ. 2559 ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของแอปพลิเคชัน CANDEE จึงได้พูดคุยกับทางฮอนด้า เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขยายคอมมิวนิตี้การทำความดีและสุขภาพให้แข็งแกร่งต่อไป

ศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรเฉลิม อิศรางกูร ณ อยุธยา คณบดีคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล มีเจตนารมณ์ในการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งศาสตร์ทางวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ เพื่อยกระดับสุขภาพที่ดีแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนานวัตกรรมการสร้างเสริมสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Health & Wellness) ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและติดตามประเมินผลทางสุขภาพของตนเองและสร้างความรู้เท่าทันทางสุขภาพ โดยได้ริเริ่มจัดทำ Good Health Application by MUMT ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2559 เพื่อใช้เป็นแพลตฟอร์มในการเชื่อมโยงเข้ากับฐานข้อมูลทางสุขภาพที่สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์และทำนายสถานะทางสุขภาพในอนาคต เพื่อให้การดูแลสร้างเสริมสุขภาพบังเกิดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น ความร่วมมือกับฮอนด้าและบิทคับในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสามหน่วยงานจะสามารถใช้ความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ต่างๆ เข้ามาช่วยกันสร้าง Ecosystem เพื่อการดูแลสร้างเสริมสุขภาวะของชาวไทย ผ่านการเชื่อมโยงและขยายผลการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อส่งเสริมการมีสุขภาวะที่ดี โดยอาศัยต้นทุนเดิมของ CANDEE ที่มีความพร้อมในการใช้งาน และมีเทคโนโลยีบล็อกเชนในจัดการธุรกรรมต่างๆ โดยมีการใช้โทเคนเข้ามาช่วยในการเก็บสะสมแต้ม และแลกของรางวัลได้ในแอปพลิเคชัน เพื่อเพิ่มความน่าสนใจในการมีส่วนร่วมกับกิจกรรมภายในองค์กร และเข้ามาช่วยขยายขอบเขตการทำงานบนแพลตฟอร์มเครือข่ายที่ทันสมัยที่ทางบิทคับได้พัฒนาขึ้น”

การผนึกกำลังของพาร์ตเนอร์ที่แข็งแกร่งในแต่ละธุรกิจในครั้งนี้ ทั้ง ฮอนด้า ผู้ริเริ่มและทำให้เกิดแอปพลิเคชัน CANDEE บิทคับ ทีมนักพัฒนาที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีบล็อกเชน และการต่อยอดไปสู่ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นของแอปพลิเคชัน CANDEE ที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งใน CANDEE Ecosystem เพื่อเป้าหมายในการขยายสังคมแห่งการทำความดีและการใส่ใจสุขภาพในรูปแบบไม่แสวงหากำไร ออกไปอย่างไม่มีสิ้นสุด เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคม