โตโยต้า เปิดตัว Hilux REVO-D ทั้งยกสูง และตัวเตี้ย พิเศษรุ่นฉลองครบรอบ 60 ปี

      บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เพิ่มความคุ้มค่า น่าใช้ ตอบสนองทุกรูปแบบการใช้งานรถกระบะ 4 ประตู REVO D ตอบโจทย์การใช้งานส่วนบุคคล และต่อยอดความสำเร็จจากความเป็นผู้นำในตลาดรถกระบะบรรทุกใช้งานเชิงพาณิชย์ด้วย Standard Cab ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ พร้อมความครบครันสวยงาม สะดวกสบาย และสมรรถนะในการใช้งานโดยเริ่มต้นจาก

รถกระบะเพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์ 
ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรถกระบะ เพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์ ด้วยสถิติการขายอันดับ 1 ครองส่วนแบ่งตลาดมากถึง 46 % ในรุ่น Standard Cab และ Extra cab ที่เน้นการใช้งานเพื่อธุรกิจ และการบรรทุก
Hilux REVO รุ่นมาตรฐาน B-Cab เพิ่มรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Sequential shift เครื่องยนต์ 2.8 GD 2nd Generation Super Power แรงเต็มพลัง ประหยัดน้ำมันเต็มสมรรถนะ พร้อมความปลอดภัยครบครัน อาทิ ระบบการควบคุมการทรงตัว VSC ระบบเสริมแรงเบรค BA ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC ซึ่งเหมาะกับกลุ่มเกษตรกร ที่ต้องการใช้งานหนัก แต่สะดวกสบายในการขับขี่ ใช้งานในพื้นที่ลาดชัน เช่น ภาคเหนือ และภาคใต้ เป็นต้น
รถกระบะเพื่อการใช้งานส่วนบุคคล
เพื่อตอบสนองการใช้งานที่เน้นการเดินทาง พร้อมด้วยอรรถประโยชน์ใช้สอย อาทิ การบรรทุกของ และการเดินทางไปได้ในทุกสภาพถนน ตอกย้ำการเป็นรถ Pick up 4 ประตูที่ได้รับความนิยมทั่วโลกอย่างแท้จริง จึงได้นำแนวคิดในการออกแบบ “Trapizoidal Face Design” ที่กำลังได้รับความนิยมมาใช้กับรุ่นยกสูง (Hi-Floor) พร้อมเพิ่มสมรรถนะสปอร์ตในการขับขี่ด้วยชุดช่วงล่างระดับตำนาน Motorsport GR-Sport ใน Hilux REVO-D ตัวเตี้ย (Lo-Floor)

สร้างการรับรู้ใหม่ด้วยกลยุทธ์การสื่อสาร
ภายใต้แบรนด์ “Hilux REVO D”

Hilux REVO-D 4 ประตู Z-Edition (Lo-Floor) ตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น และคนทำงานกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งเน้นการใช้รถในชีวิตประจำวัน เช่น การเดินทาง มาทำงาน และการใช้ชีวิตสันทนาการหลังเลิกงาน เพื่อเพิ่มความสนุกสนาน เกาะถนนหนึบ นุ่มนวล และความสบายในการขับขี่มากยิ่งขึ้น

จึงได้เพิ่มชุดช่วงล่างใหม่ที่เกิดขึ้นจากปรัชญาการพัฒนารถแข่งระดับโลก Gazoo Racing นั่นคือ “GR-Sport” ที่ลดความสูงของช่วงล่างลง 23 มิลลิเมตร พร้อมปรับขนาดล้ออัลลอยด์จากเดิม 16 เป็น 17 นิ้ว และเพิ่มความนุ่มนวล เกาะถนน ด้วยการใช้ยาง Radial สมรรถนะสูง�