ขับ Mazda Carbon Edition

บบ

 

ขับ Mazda Carbon Edition สวยเข้ม ขับสนุกเหมือนเดิม

หลังจากที่มีการเผยโฉมรถยนต์รุ่นตกแต่งพิเศษ ที่เพิ่มเสนห์ให้ดูหล่อเข้นมากยิ่งขึ้น เราก็มีโอกาสได้ทดลอง  ขับ Mazda Carbon Edition แม้เส้นทางจะไม่ไกลนัก แต่งานนี้ก็ต้องบอกได้ว่า ในรุ่นใหม่ของมาสด้านั้น สวยเข้ม ขับสนุกเหมือนเดิมในส่วนของตัวรถคงไม่ต้องพูดอะไรกันมากนัก เราเคยแนะนำกันไปแล้วช่วงที่มีการเผยโฉมออกมาให้เห็นครั้งแรง โดยรุ่นที่นำมาผลิตขึ้นเป็นรุ่นพิเศษ Carbon Edition มีอยู่ด้วยกัน 4 รุ่นก็คือ มาสด้า2, มาสด้า3, มาสด้า CX-3 และ มาสด้า CX-30

ซึ่งแน่นอนว่าการเลือกนำมาทำเป็นรุ่นพิเศษ ก็ย่อมต้องมีความโดดเด่นไม่ซ้ำเดิม โดยรูปลักษณ์ภายนอกที่มีให้เลือก 2 สี ประกอบด้วย สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ และ สีเทา แมชชีน เกรย์ ที่มาพร้อมการตกแต่งที่พิเศษ ด้วยกระจกมองข้างสีดำ และล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 18 นิ้ว ที่ตัดกันอย่างลงตัวกับภายในห้องโดยสารมาพร้อมความพิเศษกับเบาะนั่งสีแดง Burgundy

             เดินทางอยู่หลังพวงมาลัย Mazda2

สำหรับการ เดินทาง Mazda Carbon Edition ในครั้งนี้ เรามีโอกาสได้จับพวงมาลัยของตัว Mazda2 ซึ่งใน Mazda2 ก็ยังแยกออกเป็น 2 รุ่นก็คือ รุ่นซีดาน และรุ่นแฮทช์แบ็ค การออกแบบถือว่าสวยเข้ม ทั้งคู่ และยังคงขับสนุกเหมือนเดิม

ในรุ่นมาสด้า2 Carbon Edition รุ่นซีดาน 4 ประตู ออกแบบให้กระจกมองข้างสีดำตัดกับโทนสีเข้มภายนอก ภายในตกแต่งพิเศษด้วยเบาะนั่งสีแดง Burgundy ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ด้วย Wireless Apple CarPlay® พร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) มีราคาจำหน่าย 669,000 บาท

ส่วนมาสด้า2 Carbon Edition Sports รุ่นแฮตซ์แบค 5 ประตู ก็ตกแต่งมาในรูปแบบเดียวกันคือกระจกมองข้างสีดำ และภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยเบาะนั่งสีแดง Burgundy มอบความสะดวกสบายด้วยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง และเพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่กับ Sports Paddle Shift ราคาจำหน่าย 669,000 บาทเท่ากัน

ขับสนุกช่วงล่างเกาะเช่นเดิม

ถ้าเราพูดกันตรงๆ ว่าช่วงล่างของมาสด้า2 เองเป็นรถแนววัยรุ่นหน่อยคงไม่ผิดนัก ผู้ใหญ่ที่ต้องการความนุ่มนวลสะดวกสบายอาจมองว่าช่วงล่างออกแนวกระด้างไปหน่อย เมื่อเจอกับหลุมบ่อ หรือรอยต่อถนน แต่ถ้าถามวัยรุ่นคุณจะได้คำตอบอีกแบบ

เพราะช่วงล่างที่สปอร์ตออกกระด้างจะมาพร้อมการยึดเกาะโค้งที่ดี อาการโคลงของรถน้อยการเลี้ยวโค้งแคบในความเร็วจึงดูมั่นใจ ซึ่งมาสด้า2 ทั้งสองรุ่นก็จะให้อารมณ์ในการขับขี่แบบสปอร์ต พวงมาลัยไปตามมือ หรือเรียกง่ายๆ ว่าการบังคับควบคุมดี มาพร้อมระบบ G Victoring Control Plus ที่ช่วยในเรื่องของการทรงตัวและการเข้าโค้งที่มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย

ในเรื่องของพละกำลัง เครื่องยนต์ Skyactiv G เบนซิน 1.3 ลิตร ที่ให้แรงม้า 93 ตัวที่ 5800 รอบต่อนาทีพร้อมแรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตรที่ 4 000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วย เกียร์สกายแอคทีฟไดรฟ์ อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Manual mode Activematic ยังคงให้อัตราเร่งแซง ที่มั่นใจ ขับสนุก

แต่หลายคนบอกว่าในเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองของมาสด้า2 ค่อนข้างสูง แต่หลายครั้งที่เรามีโอกาสได้ทดลองขับ พร้อมจับตัวเลขคอนซัมชั่นบนแผงหน้าปัด อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยนอยู่ที่ 17-18 กม./ลิตร นั่นถือว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างประหยัด อาจไม่ได้สูงเหมือนอีโค่คาร์หลายค่ายที่เอาตัวเลขมาพูดกัน แต่อย่าลืมว่า เมื่อรถขับสนุก อัตราเร่งเร้าใจ บางช่วงเราเผลอดกดคันเร่ง หรือที่เราเรียกกันว่า “ซิ่ง” สนุกไปตามท้าว และมือของเรามากไปหน่อย รถอะไรก็ไม่ตอบสนองเรื่องความประหยัดอย่างที่เราต้องการเช่นกันครับ