ดูแลรักษา “สีรถ” ให้เงางามอย่างยั่งยืน

“รถยนต์” ที่หลายคนบอกว่า “รักยิ่งกว่าเมีย” เพราะเมียไม่เคยอาบน้ำให้เลยซักครั้ง แต่รถต้องดูแลรักษา และปกป้องอย่างดี ให้ความสำคัญในทุกเรื่อง รวมทั้งเรื่องของความสะอาดของตัวรถ สกปรกเล็กน้อย หรือรอยนิดหน่อยก็รู้สึกไม่สบายใจ เพราะฉะนั้นต้องมีมาตรการดูแลที่มีประสิทธิภาพ และได้ผล ซึ่งที่มาของสิ่งสกปรกอันจะมาสร้างร่องรอยให้กับรถคุณนั้นมีอยู่มากมาย โดยเฉพาะบนท้องถนน เขม่าคันจากท่อไอเสียต่างๆ รวมทั้งคราบน้ำที่ท่วมขังอยู่บนถนน ฝนที่ตอกลงมาก็ใช่ว่าจะสะอาดโดยเฉพาะในเขตที่มีโรงงานอุตสาหกรรมเยอะๆ และแม้จะบอกว่าไม่ค่อยได้ขับรถออกไปซ่านอกบ้านนัก แต่ละอองฝุ่นก็สามารถปลิวมาเกาะสีรถได้ทุกเวลา และที่สำคัญ มูลนก ที่บางครั้งมีพวกยางไม้ ที่มีฤทธิ์เป็นด่าง ตัวแมลง รวมไปถึงเจ้าเหมียวข้างบ้านที่มาฝากรอยเท้าเอาไว้ให้เห็นเป็นประจำก็มีส่วนช่วยให้สีรถหม่นหมองและอาจมีร่องรอยจากกรงเล็บมันให้เราต้องน้ำตาร่วงก็เป็นไปได้

การล้างรถบ่อยๆ ก็ถือเป็นการช่วยถนอมสีรถให้ดูสดใสได้ แต่ก็ต้องล้างอย่างที่ถูกวิธี จะล้างเองหรือว่าเข้าปั๊มล้างก็ต้องคอยสังเกตุวิธีการล้างของเด็กคาร์แคร์ว่าถูกต้องหรือไม่ ใช้อุปกรณ์ที่สะอาดปลอดภัยกับผิวรถหรือเปล่า พวกน้ำยาล้างรถก็มีส่วนช่วยให้สีรถซีดลงได้เช่นกันถ้าเป็นของที่ไม่มีคุณภาพ ส่วนการล้างรถขณะที่เครื่องยนต์ร้อน หรือ จอดอยู่ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนนานๆ ก็ไม่ใช่สิ่งดี เหมือนกับคนเราออกกำลังกายมาเหนื่อยๆ แล้วอาบน้ำเลยก็ไม่ดีนักร่างกายยังปรับตัวไม่ทัน รถยนต์ก็เช่นกัน ฝากระโปรงที่ร้อนเมื่อเจอกับความเย็นของน้ำก็อาจจะทำให้สีลอกล่อนได้ในระยะยาว

ระยะเวลาการล้างรถควรจะล้างประมาณสัปดาห์ละครั้ง หรือเมื่อรถเริ่มดูสกปรก การทิ้งให้รถมีคราบสกปรกเกาะนานๆ จะทำให้คราบซึ่งเราไม่รู้ว่าเป็นคราบอะไรบ้างนั้น มันอาจจะกัดสีตัวรถ นอกจากจะล้างออกยากแล้วรถอาจเกิดรอยด่างได้ โดยเฉพาะพวกคราบน้ำมันต่างๆ เมื่อเปราะเปื้อนรถแล้วก็ควรจะต้องล้างออกในทันที อีกคราบหนึ่งที่น่ากลัวก็คือ บนถนนที่เพิ่งผ่านการลาดยางใหม่ๆ แอสฟัลต์ หรือว่ายางมะตอยที่ยังไม่แห้งสนิท ถ้าเราเผลอไปขับรถไปสะกิดมันเข้าก็เป็นเรื่องเหมือนกัน การล้างออกก็ต้องยิ่งทำโดยเร็ว อย่าใช้วิธีขูดหรือแคะ ควรใช้ประเภทน้ำมันสน น้ำมันก๊าด หรือน้ำยาขยัดคราบที่บอกสรรพคุณเอาไว้เฉพาะเช็ดออกจะดีที่สุด

สำหรับรถที่จอดเอาไว้นาน นอกจากควรจะจอดอยู่ในที่ร่ม ในโรงรถที่สามารถกันแดดกันฝนได้แล้ว สิ่งหนึ่งที่ควรทำก็คือการใช้ผ้าคลุมรถ ซึ่งจะช่วยป้องกันสีและตัวรถให้รอดพ้นจากละอองฝุ่น สิ่งสกปรกอื่นๆ รวมทั้งรอยเท้าของเจ้าแมวโขมยได้อีกด้วย ในกรณีที่จอดไว้ในโรงจอดก็สามารถจะใช้ผ้าคลุมรถราคาถูกคุณภาพระดับปานกลางได้ ถ้าต้องจอดรถไว้กลางแจ้งแนะนำว่าควรต้องเลือกใช้ผ้าคลุมรถที่ทนความร้อนป้องกันแสงอุลตร้าไวโอเลตได้แม้จะราคาแพงซักหน่อนแต่ก็น่าจะคุ้มค่ามากกว่าครับ

รถที่ใช้งานมานาน คราบสกปรกที่เขาเรียกว่า “คราบฝังลึก” นั้นมีให้รำคาญใจกันอยู่เป็นประจำ นอกจากนี้ยังมีร่องรอยของการขีดข่วนเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาเรียกกันว่า “รอยขนแมว” คนรักรถอย่างเราเห็นแล้วมันเซ็งในอารมยิ่งนัก เมื่อสีรถเริ่มคล้ำจากการตรากตรำมากๆ และเราอยากจะให้กลับมาดูสดใสสวยงามขึ้นบ้าง แม้จะไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องใสกิ๊กเฉกเช่นเมื่อครั้งวัยแรกรุ่นที่คบกัน ก็คงต้องอาศัยการขัดเคลือบสีรถกันหน่อย จะลงมือเล่นเอง หรือว่าใช้บริการตามร้านคาร์แคร์ ก็ว่ากันไป แต่ส่วนใหญ่ก็จะเข้าร้านเนื่องจากว่าเขาจะมีเครื่องมือทุ่นแรงและมีประสิทธิภาพดีกว่าการขัดด้วยมือของเราเอง นอกจากนี้การใช้น้ำยาขัดที่ซื้อมาตามห้าง หรือร้านขายอุปกรณ์ประดับยนต์ทั่วไปอาจไม่เป็นไปอย่างที่เราคิดหรือเป็นไปตามที่โฆษณาเอาไว้ ซึ่งก็ต้องดูให้ดีเพราะยาขัดบางตัวใช้ขัดหยาบเฉพาะร่องรอยลึกๆ บางอย่างขัดละเอียดต้องต้องลงมือขัดกันนาน บางอย่างเป็นยาเคลือบอย่างเดียวเอามาขัดไม่ได้ หรือเป็นยาขัดแต่ไม่เคลือบ แต่ก็มีที่เป็นทั้งขัดทั้งเคลือคุณภาพก็อาจจะไม่ดีนัก คือจะขัดก็ได้ไม่ดี จะเคลือบก็ไม่เงางามโดดเด่น แต่ก็นิยมใช้กันเพราะถ้าลงมือเองก็จะเสร็จสรรพในขั้นตอนเดียว แต่ถ้าเป็นคาร์แคร์ที่ใช้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพหน่อย เขาก็จะมียาขัดเคลือบแยกประเภทเอาไว้ใช้อย่างเหมาะสม เพราะฉะนั้นก็ควรจะต้องควักกระเป๋าเข้าร้านน่าจะเป็นหนทางที่ดีกว่า

อย่างไรก็ตามการขัดสีบ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำบ่อยนัก อย่างลืมครับว่าการขัดสีบ่อยๆ นั้นจะยิ่งทำให้ชั้นแลกเกอร์ที่เคลือบเงาของสีรถอยู่นั้นบางลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเนื้อสี ซึ่งถ้าถึงขนาดนี้แล้วความเงามันจะโบกมือลาไปต่อให้ใช้น้ำยาเคลืบเงาคุณภาพระดับเทพขนาดไหนก็ไม่สามารถสร้างความแวววาวได้อย่างแน่นอน จากนั้นสีที่เคยสดใสก็จะเริ่มซีดลงไปเรื่อยๆ ส่วนการดูแลรักษาภายในรถนอกจากการทำความสะอาดด้วยการดูดฝุ่นหลังจากการล้างรถแล้ว เบาะหนังหรือไวนิลก็ควรจะต้องมีน้ำยาเคลือบคุณภาพดีๆ เบาะผ้าก็ต้องระวังอย่าให้มีของประเภทน้ำหกรถเบาะบ่อยนัก และก็ควรมีการซักล้างด้วยน้ำยาเฉพาะบ้างเท่านี้ก็จะทำให้รถที่คุณรัก มีความสดใสยืนยาวเคียงคู่คุณไปอีกนานครับ