ทดสอบ TOYOTA HI LUX REVO ใหม่

ทดสอบ TOYOTA HI LUX REVO ใหม่ ปรับโฉม เพิ่มพลัง นุ่มหนึบกว่าเดิม

Toyota เองก็ถือเป็น ค่าย รถยนต์ ที่แม้จะชะงัก ด้วย เรื่องของ โรคระบาด แต่ก็เริ่มที่จะกลับเข้าสู่แผนการ เผยโฉมรถยนต์ อาจจะล่าช้าไปบ้าง ก็เป็นไปตามกลไกของเศรษฐกิจ แต่ในที่สุด กระบะโฉมใหม่ ก็เปิดตัว ขึ้นมาพร้อมกับ รถยนต์ PPTV ของค่าย ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานก็มีการจัดงาน ทดสอบ TOYOTA HI LUX REVO ใหม่ โดยเน้นในเรื่องของ การขับขี่ การพิสูจน์ถึงสมรรถนะเครื่องยนต์ ที่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง การพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพของระบบช่วงล่างการรับน้ำหนัก ทุกสิ่งอย่างที่ได้รับการปรับปรุงใหม่

3 Station กับบทพิสูจน์ ที่คุณต้องรู้

การทดสอบสมรรถนะและการเรียนรู้ สำหรับ TOYOTA HI LUX REVO ใหม่ นี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ การขับขี่ที่แยก ออกเป็น 2 Station ก็คือการขับขี่ในลักษณะของทางเรียบหรือ On Road

และการขับขี่ที่แยกเป็น เส้นทางออฟโรด ซึ่งจะ ให้เราได้เห็นได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นถึงสมรรถนะในการ ขับลุย กับเส้นทางที่ หลากหลาย และสุดท้าย กับสิ่งที่จะแสดงให้เห็นว่า Toyota ได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของเทคโนโลยีและความสำคัญ ที่ใส่เอาไว้ใน รถกระบะรุ่นใหม่ ในสเตชั่นของการเรียนรู้ ก็คือ Technology T Connect + p o s

 Technology T Connect + p o s

T connect เป็น Application ที่โตโยต้าให้ความสำคัญ กับการใช้งาน ของรถ สิ่งที่โตโยต้าต้องการมอบให้กับผู้บริโภคก็คิอให้ความอบอุ่นใจความปลอดภัยไร้กังวลในทุกสถานการณ์ สิ่งที่สำคัญก็คือ t-connect สามารถเช็คตำแหน่งรถ แบบ Real Time ได้ทุกที่ทุกเวลา มีระบบ stolen vehicle tracking หรือระบบตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์เมื่อถูกโจรกรรมพร้อมประสานความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง

ระบบ SOS ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีระบบ Geo-Fencing หรือระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากขอบเขตที่คุณกำหนดไว้

นอกจากนี้ยังมีบริการแจ้งเตือนล่วงหน้าหรือที่เรียกว่าระบบเทเลเมติกส์ Care ซึ่งก็ถือว่า เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานให้กับเจ้าของรถได้เป็นอย่างดี

Toyota Hilux Revo กับความเปลี่ยนแปลงที่สัมผัสได้

สำหรับการทดสอบในครั้งนี้ จะเน้นไปที่ Toyota Hilux Revo ตัวพรีรันเนอร์และตัว 4 คูณ 4 ขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ 2.8 ลิตรเป็นหลัก โดยในรุ่น 4 ประตูน้ำถือว่า มีความโดดเด่นสวยงามมากยิ่งขึ้น สิ่งแรกที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือด้านหน้าออกแบบใหม่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าที่มีขนาดกว้างขึ้นไฟหน้ารูปแบบใหม่เป็นแบบ Bi-Beam LED ซึ่งช่วยในเรื่องของการส่องสว่าง ให้กว้างและไกลมากขึ้น นอกจากนี้ ด้านท้าย ยังมีกันชนใหม่พร้อมไฟรูปแบบที่ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ในส่วนภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งการออกแบบที่ดูสวยงามมากกว่าเก่า โดยเฉพาะจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ TFT เครื่องเสียงที่รองรับ Apple CarPlay ระบบ Push Start รวมทั้งการเพิ่มช่องต่อไฟกระแสสลับ 220 โวลต์ เพิ่มความสะดวกในการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จำเป็น เบาะหนัง ผสมกับหนัง สังเคราะห์ ซึ่งสามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้าถึง 8 ทิศทาง จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้พวงมาลัยสามารถปรับระดับได้ถึง 4 ทิศทางพร้อมปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นการใช้งาน ที่ค่อนข้างครบครัน

สู่สถานีทดลองขับ On Road

มาถึงในช่วงการทดสอบ รายการขับขี่บนทางเรียบหรือว่า on Road ถึงแม้ว่าการขับขี่ครั้งนี้ จะเป็นเพียงแค่ระยะทางสั้นๆ แต่ก็ถือว่าครบครันไปด้วยสิ่งที่เราอยากรู้ ในการใช้งาน บนถนนจริง ทั้งเรื่องของ handing การบังคับควบคุม การเร่งแซงรวมไปถึงการทดสอบช่วงล่าง ที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่ ด้วย

สิ่งแรกที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือเครื่องยนต์ที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่ ซึ่งใน Toyota Hilux Revo ใหม่นี้จะใช้เครื่องยนต์ GD เจนเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนไปหลายส่วน เป็นต้นว่า การเพิ่มสาร เคลือบ เพื่อลดแรงเสียดทานที่แหวนรองลูกสูบ การเปลี่ยนหัวฉีดน้ำมัน เป็นแบบใหม่ที่เขาเรียกว่าหัวฉีดน้ำมันอัจฉริยะ i-ART ควบคุมการจ่ายน้ำมันในแต่ละหัวฉีดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็จะช่วยในเรื่องของความประหยัดน้ำมัน

นอกจากนี้สิ่งที่ถือว่ามีความสำคัญในการเพิ่มพละกำลังให้กับเครื่องยนต์ นั่นก็คือ การใช้เทอร์โบแปรผัน ลูกใหม่ ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ช่วยให้ปริมาณการอัดอากาศได้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการ เปลี่ยนตลับลูกปืนหรือ Ball bearing ในแกนเทอร์โบ เพื่อลดแรงเสียดทาน ก็จะเป็น การที่ช่วยให้ เทอร์โบสามารถ Boots กำลังออกมาใช้งาน ได้ดีกว่าเดิมซึ่งตัวเลข ของพละกำลังที่ได้ สูงถึง 240 แรงม้า ที่ 3400 รอบต่อนาที จากเดิม ที่มีให้เห็นเพียง 177 แรงม้า ส่วนแรงบิดที่สามารถทำออกมาได้ก็สูงถึง 500 นิวตันเมตร จากเดิม เพียงแค่ 450 นิวตันเมตร

ในส่วนของระบบส่งกำลังยังคงใช้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เช่นเดิมแต่ในรุ่นนี้ จะมีการปรับเปลี่ยน เพื่อให้เกียรติสามารถเรียกพละกำลังออกมาใช้งานได้รวดเร็วทันใจมากยิ่งขึ้นโดย ที่จะมีการปรับจูน ให้ เพิ่มช่วง Lock Up ของเกียร์ 4 5 และ 6 ให้กว้างขึ้น ซึ่งผลที่ได้ก็จะทำให้การตอบสนองในช่วงเร่งแซง ได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องมากกว่าเดิม โดยที่ใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำลง

มาถึงช่วงล่างที่มีการ set up ใหม่ แล้วจุดนี้ทาง Toyota เอง ก็ถือว่าให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ โดยช่วงล่างใหม่เขาจะเรียกว่า Super Flex suspension สิ่งแรกที่มีการปรับจูนใหม่นั่นก็คือโช้คอัพ เน้นให้สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังเปลี่ยน ตัว Mounting Bush shackle โดยปรับเปลี่ยนรูปทรงชิ้นส่วนใหม่ ให้สามารถ ลดแรงเสียดทาน ได้ดีมากกว่าเดิม ซึ่งจุดนี้จะช่วยในเรื่องของความนุ่มนวลในการขับขี่ อีกสิ่งนึง ในส่วนของช่วงล่างด้านหลัง ยังคงใช้รูปแบบของแหนบแผ่น แต่ได้มีการเปลี่ยนวัสดุแหนบแผ่นกลางให้เป็นแบบ High tensile Steel ที่ถือว่าช่วยให้น้ำหนักเบาลง แต่ยังคงความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับ การบรรทุก ได้ไม่ต่างจากเดิม

สำหรับการปรับเปลี่ยนช่วงล่าง ที่เห็นได้อย่างชัดเจนในส่วนของการทดสอบ นั่นก็คือ ในช่วงที่เข้าโค้งแรงๆรวมทั้ง การขับแบบสลาลอม และใช้ควาทเร็วสูงในทางตรง จะสังเกตได้ว่า มีการยึดเกาะถนน ที่ค่อนข้างมั่นใจมากยิ่งขึ้น

รวมทั้งการวิ่งผ่าน ในช่วงถนนที่ขรุขระ งั้นก็ถือว่าการซับแรงกระแทก ที่ช่วยให้ การสั่นสะเทือน และการสะท้านเข้ามาในรถน้อยลงไปกว่าเดิมค่อนข้างเยอะ แต่ออกจะนุ่มนวล มากไปเล็กน้อยถ้าใครชอบความกระด้างและความเป็นสปอร์ต อาจจะนั่งและขัดใจ สักหน่อย แต่โดยรวมแล้ว การที่ช่วงล่างหลังไม่ดีกระเด้งหรือกระแทก ผมเชื่อว่าหลายท่าน คงมีความรู้สึกที่ดีมากกว่า การที่ขับผ่านเส้นทางขรุขระแล้วนั่งไม่สบายก้น

ในสนามขับเคลื่อนสี่ล้อ

สำหรับสถานี ขับเคลื่อน 4 ล้อ บนเส้นทางที่จำลองสถานการณ์ในการปีนป่ายและสภาพเส้นทางที่เป็นเดินสลับ ซึ่งจะช่วยให้เราเห็นถึงสมรรถนะของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ใน Toyota Hilux Revo ใหม่ ได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น สิ่งแรกที่แสดงถึงประสิทธิภาพในการใช้งานของรถขับเคลื่อน 4 ล้อนั่นก็คือเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร สิ่งที่เขาได้มีการปรับจูนมานั้น ช่วยให้การขับ ออฟโรดง่ายมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงบิด 500 นิวตัน ในรอบต่ำ สามารถใส่ความชันระดับ 40 องศาได้อย่างไม่ยากเย็น

นอกจากนี้ในการใช้งานของรอบเดินเบาหรือไอเดิลสปีด รอบเครื่องจะต่ำเพียงแค่ 650 รอบต่อนาที จากเดิม รอบเดินเบาจะอยู่ที่ 850 รอบต่อนาที สิ่งหนึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ เรื่องของความประหยัดในขณะที่ ขับอยู่ในเส้นทางออฟโรด แรงบิดจะช่วยให้รถสามารถผ่านอุปสรรคไปได้ด้วยรอบเครื่องยนต์ที่ไม่สูงนัก

อีกระบบที่เข้ามาช่วยในเรื่องของการขับขึ้นเนิน คันนั้นก็คือระบบ HAC หรือ Hill Start Assist Control ระบบที่ช่วยออกตัวหลังจากที่เราจอดอยู่บนทางลาดชัน ทำงานโดยการหน่วงระบบเบรก เอาไว้ประมาณ 3 วินาทีเพียงพอต่อการเปลี่ยนเท้าจากแป้นเบรก มากดคันเร่ง

นอกจากนี้ ใน การลงทางลาดชันก็มีระบบที่เรียกว่า DAC หรือ Dawn Hill Assist Control ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน จะช่วยควบคุมระบบเบรก ให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งความเร็ว จะแปรผันไปตามการใช้งาน สูงสุดถึง 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

สิ่งที่น่าสนใจในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ สิ่งที่น่าสนใจในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ระบบที่เข้ามาช่วยลดอาการกระชากในช่วงที่ออกตัว จะเรียกว่าระบบ Acceleration Characteristics ก็ช่วยให้รถมีความ นิ่มนวลในช่วงของการออกตัวมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังมี ระบบ Auto Limited Slip Differential ที่จะช่วยในเรื่องของ การแก้ปัญหารถติดหล่มและล้อหมุนฟรี ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนหลังจากที่ เรา ทดสอบอยู่ ในช่วงของเนินสลับ การถ่ายกำลังจากล้อ ที่ลอยพ้นพื้นไปยังล้อที่ ติดพื้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สุดท้ายก็คือระบบแสดงทิศทางของล้อ ซึ่งจะช่วยให้การ ขับ ไม่ว่าจะเป็น บนเส้นทางออฟโรดหรือ เส้นทาง ที่เรามอง ไม่เห็น ก็จะช่วยให้เราไม่หลง ทิศทางและจับจังหวะ การวางล้อได้อย่างถูกต้องแม่นยำ

     Toyota Hilux Revo ใหม่ ออกมาหลังจาก ช่วง ที่ตลาด กำลังต้องการแรงกระตุ้น สิ่งที่น่าสนใจก็คือ กระบะโฉมใหม่ไม่ได้ออกมา เพียงแค่ปรับเปลี่ยนหน้าตา และรูปร่างเพียงอย่างเดียว สิ่งที่ หลายคนรอคอย และต้องการ ก็คือเรื่องของ สมรรถนะ รวมไปถึง ความเปลี่ยนแปลง ของช่วงล่างและการขับขี่ ซึ่งการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้เราเองก็เชื่อว่า จะตอบโจทย์ความต้องการ ของใครหลายๆคนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่อง ประสิทธิภาพของพละกำลัง และความนุ่มนวล ที่เชื่อว่า หลายคนจะมอง กระบะรุ่นใหม่นี้ แตกต่างไปจากรุ่นเดิมได้อย่างชัดเจน