มาสด้า2 ลงสู้ศึกไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรี่ส์ 2019

มาสด้ามอเตอร์สปอร์ต ส่งมาสด้า2 ลงสู้ศึกไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรี่ส์ 2019

มาสด้ามอเตอร์สปอร์ต ส่ง มาสด้า2 ลงสู้ศึกไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรี่ส์ 2019 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ภายใต้ทีม Mazda Innovation Motorsport ส่งเจ้าจิ๋วตัวแรงมาสด้า2 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1500 ซีซี ทั้งรุ่น 4 ประตู และ 5 ประตู ในประเภทรุ่น Thailand Super Compact โดย 2 นักแข่งมากประสบการณ์อย่าง “มานะ พรศิริเชิด” ประกบคู่กับหนุ่มน้อยหัวใจนักซิ่ง “จารุตม์ จรวิเศษ” ตั้งเป้ายืนตำแหน่งโพเดี้ยมทั้งประเภทบุคคลและประเภททีม

 

มาสด้ายังคงเดินหน้าสร้างผลงานในวงการมอเตอร์สปอร์ตต่อเนื่อง เพื่อถ่ายทอดความเป็นรถยนต์สายพันธุ์สปอร์ตที่มีอย่างเต็มเปี่ยม จึงเฟ้นหาเวทีเพื่อรีดสมรรถนะ และแสดงยีนส์เด่นออกมาให้เด่นชัดที่สุด โดยในปีนี้ มาสด้ามอเตอร์สปอร์ต ส่งมาสด้า2 ลงสู้ศึกไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรี่ส์ 2019 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 โดยทีมแข่งคุณภาพอย่าง Mazda Innovation Motorsport ที่ล่าสุดยืดตำแหน่งรองแชมป์ประเภททีมในปีที่ผ่านมา และยังไม่หยุดพัฒนา ทำการบ้านอย่างหนักในการสร้างขุมพลังให้กับรถแข่ง มีการปรับจูนเครื่องยนต์ และปรับแต่งอุปกรณ์หลายรายการ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง และอึดทนของเครื่องยนต์ในการทำความเร็วต่อเนื่องในระยะเวลาการขับขี่ที่นานขึ้น เพื่อรองรับกับรูปแบบการแข่งที่มีการปรับเปลี่ยน เพื่อเพิ่มดีกรีความมัน ให้ได้ลุ้นกันตัวโก่งทั้งฤดูกาล

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า รถแข่งรุ่นมาสด้า2 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล ขนาด 1500 ซีซี รุ่น 5 ประตู หมายเลข 43 ขับโดย มานะ พรศิริเชิด ที่มีทักษะ และประสบการณ์แข่งรถมาอย่างโชกโชน ลงแข่งในคลาส A ประกบคู่มากับมาสด้า2 รุ่น 4 ประตู หมายเลข 55 ขับโดยหนุ่มน้อยหัวใจนักซิ่ง จารุตม์ จรวิเศษ ลงแข่งในคลาส C ที่แม้จะเพิ่งเข้าร่วมทีมได้เพียง 1 ปี แต่ จารุตม์ สามารถปรับทักษะการขับขี่ให้เข้ากับรถมาสด้าได้อย่างรวดเร็ว และมีความเป็นหนึ่งเดียวกับรถ อีกทั้งยังมีสปิริตความเป็นนักสู้ ที่แม้ในบางสนามไม่ได้จบสวยด้วยการเข้าเส้นชัย แต่จารุตม์ ก็ไม่ย่อท้อ เปลี่ยนความผิดหวังเป็นแรงผลักดันในการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวสู้ในสนามต่อไป นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่มาสด้าที่ได้มีส่วนร่วมในการผลักดันนักแข่งฝีมือดีเจนเนอเรชั่นใหม่สู่วงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย และอาจจะไปได้ไกลถึงระดับโลก

ด้าน ไมเคิล ฟรีแมน ผู้อำนวยการทีม Mazda Innovation Motorsport อธิบายถึงการแข่งขันในปีนี้ว่า ทีมลงแข่งขันในประเภทรุ่น Thailand Super Compact เหมือนปีที่ผ่านมา แต่ในปีนี้ มีการปรับเปลี่ยนกติกา และรูปแบบการแข่งขัน โดยจะต้องลงแทร็คร่วมกับประเภทรุ่น Thailand Super Production จากเดิมที่ท้าทายด้วยความหลากหลายของรถที่ลงแข่ง เพิ่มระดับความยากในการขับขี่ด้วย จำนวนรถที่เพิ่มขึ้น และวิธีการตัดสินแชมป์จากเดิมที่วัดด้วยเวลาเข้าเส้นชัยที่น้อยที่สุด เพิ่มบททดสอบความอึดทั้งรถและนักแข่ง ด้วยการตัดสินจากจำนวนรอบขับภายในระยะเวลาที่กำหนด คือ 1 ชั่วโมง ทำให้ทีมแข่งหรือแม้แต่ตัวนักแข่งเอง ต่างต้องพัฒนา วางแผน และฝึกซ้อม เพื่อทำลายข้อบกพร่องให้ได้มากที่สุด โดยทางทีมยังคงได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก มาสด้า คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีม และพัฒนารถแข่งให้มีศักยภาพมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการคว้าแชมป์

ผลการแข่งขังขั้น สนามแรก วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2562

หมายเลข 43 มานะ พรศิริเชิด จบการแข่งขันอันดับที่ 3

หมายเลข 55 จารุตม์ จรวิเศษ จบการแข่งขันอันดับที่ 5

ผลการแข่งขัน สนามที่ 2 วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน 2562

หมายเลข 43 มานะ พรศิริเชิด จบการแข่งขันอันดับที่ 2

หมายเลข 55 จารุตม์ จรวิเศษ จบการแข่งขันอันดับที่ 4

ส่งผลให้คะแนนรวมประเทศทีม 2 สนามแรก Mazda Innovation Motorsport ขึ้นอันดับหนึ่ง

ตารางการแข่งขัน Thailand Super Series 2019

· สนาม 3 และ 4 วันที่ 28 สิงหาคม – 1 กันยายน ที่ สนาม บางแสน สตรีท เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี

· สนาม 5 และ 6 วันที่ 27 – 29 กันยายน ที่ สนาม พีระ เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี

· สนาม 7 และ 8 วันที่ 25 – 27 ตุลาคม ที่ สนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

มาสด้า กับกีฬามอเตอร์สปอร์ต

ความเป็นสปอร์ตไม่เคยเรือนหายไปจาก DNA ของมาสด้า นั่นคือ Stylish, Insightful และ Spirited เราใส่ความเป็นสปอร์ตลงไปในทุกสิ่งที่เราทำ นับตั้งแต่การคว้าชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันที่เร้าใจ กับชัยชนะที่ได้รับจากการแข่งขัน เลอ มังส์ 24 ชั่วโมง เอ็นดูแรนซ์ เรซ (Le Mans 24 Hour Endurance Race) ในปี 1991 ของรถมาสด้า 787B คือที่สุดแห่งความภาคภูมิใจของมาสด้า ประเทศญี่ปุ่น ในฐานะรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายแรก และรายเดียวที่ได้รับชัยชนะในการแข่งขัน

ความภาคภูมิใจหนึ่งเดียวนี้ ได้ถูกถ่ายทอดลงสู่รถยนต์มาสด้ามาโดยตลอด ในประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน นอกจากสร้างสรรค์รถยนต์ที่เต็มเปี่ยมด้วยด้วยความเป็นสปอร์ต

2007 – 2008: เริ่มต้นเข้าสู่วงการ มอเตอร์สปอร์ต

มาสด้าจึงตัดสินใจเดินหน้าเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทยอย่างเต็มความภาคภูมิกับการเปิดตัวทีมแข่งขันรถยนต์ทั้งประเภท ครอสครันทรี และทางเรียบกับสปอร์ตปิคอัพมาสด้า บีที-50 พลังแรงแห่งยุค ภายใต้ทีม “MAZDA TEAM PPT” นับเป็นความร่วมแรงร่วมใจอย่างดียิ่งระหว่างมาสด้ากับปตท. ที่สามารถสร้างทีมแข่งขันที่แข็งแกร่งเพื่อลงชิงชัยในสนามการแข่งขันรถยนต์

รถปิกอัพที่ใช้ในการแข่งขัน ประกอบด้วยรถสปอร์ตปิคอัพมาสด้า บีที-50เครื่องยนต์คอมมอนเรล 3000 ซีซี ให้แรงม้าสูงถึง 156 แรงม้า มีทั้งหมด 3 คัน สำหรับลงทำการแข่งขันในรายการ Thailand Cross Country 4×4 Championship นำโดยคุณธนภณ ทองเจือ หรือคุณพีท ทองเจือ คุณพรสวรรค์ ศิริวัฒนกุล และคุณอนุชา ผ่านด่าน

และรถสปอร์ตปิคอัพมาสด้า บีที-50 เครื่องยนต์คอมมอนเรล 2500 ซีซี แรงม้าสูงสุด 143 แรงม้า ลงทำการแข่งขันในรายการ Super Car Thailand Pick-Up Commonrial 2.5L โดยมีคุณธนภณ ทองเจือ

2009 – 2012: สถานการณ์ไม่อำนวย

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการเตรียมตัวเพื่อนำรถยนต์เจนเนอเรชั่นใหม่เข้าสู่ตลาดประเทศไทย มาสด้าหันไปสร้างความเชื่อมั่นกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น รวมทั้งสถานการณ์น้ำท่วมที่ส่งผลต่อตลาดรถยนต์ ทำให้กิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตได้รับความนิยมน้อลง

2013 – 2014: เริ่มกลับมาบุกเบิกมอเตอร์สปอร์ตอีกครั้ง

หลังจากประสบความสำเร็จด้านยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้น มาสด้าเริ่มหันกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยเนรมิตรถยนต์นั่งมาสด้า2 เครื่องยนต์ 1500 ซีซี เข้าร่วมการแข่งขันรายการ Thailand Super Series ภายใต้ชื่อทีม Mazda Innovation Motorsport โดยได้นักแข่งมากประสบการอย่าง พีท ทองเจือ ปะกบคู่มากับ ไมเคิล ฟรีแมน ลงทำการแข่งขันในรุ่น Super Production

2015 – 2016: เริ่มนำมาสด้า2 สกายแอคทีฟ คลีนดีเซล ลงสู้ศึก พร้อมนักแข่งน้องใหม่

มาสด้าเริ่มรุกมอเตอร์สปอร์ตมากยิ่งขึ้นด้วยการจับเอา มาสด้า2 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1500 ซีซี ลงทำการแข่งในในรายการ Thailand Super Series อีกครั้งในรุ่น Super Production โดยมีนักแข่งน้องใหม่ “พลอย” ธัชพรรณ วิจิตรานนท์ สาวน้อยอายุเพียง 17 ปี

2017: ก้าวขึ้นคว้าแชมป์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ถึงแม้ว่าหลายปีที่ผ่านมา ผลการแข่งขันยังไม่สามารถก้าวขึ้นแถวหน้าของตารางได้ แต่มาสด้าก็ไม่เคยท้อ ยิ่งทำให้มาสด้าเร่งพัฒนาทั้งตัวรถแข่งและนักแข่งเพื่อให้เป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถมาสด้าที่สุด โดยมาในครั้งนี้วางเป่าหมายสูงสุดคือเป็นแชมป์เท่านั้น และก็ไม่ผิดหวังเมื่อมาสด้าก้าวคว้าแชมป์ประจำปีมาได้สำเร็จ ทั้งประเภทบุคคลและประเภททีม ด้วยฝีมือของ 2 นักแข่งฝีมือระดับพระกาฬ นั่นคือ ไมเคิล ฟรีแมน และมานะ พรศิริเชิด

2018 – 2019: คู่หูใหม่แห่งวงการ สองหนุ่มต่างวัย หัวใจเดียวกัน

ล่าสุดมาสด้ายังเดินหน้าคว้าชัยชนะอย่างต่อเนื่อง ด้วยฝีมือขอ 2 คู่หูคู่ใหม่ นั่นคือ มานะ พรศิริเชิด ประกบคูมากับน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ จารุตม์ จรวิเศษ ลงทำการแข่งขันในรุ่น Super Compact

การก้าวเข้าสู่วงการ Motorsport ไม่เพียงแค่สร้างรถยนต์แล้วนำแข่งลงแข่งเท่านั้น แต่เรามองระยะยาว คือ การสร้างให้กีฬา มอเตอร์ สปอร์ต ให้ได้รับความนิยมมากขึ้น สร้างคนรุ่นใหม่ให้มีโอกาสก้าวไปสู่ความสำเร็จ เห็นได้จาก น้องพลอย และ น้องจารุตม์ ที่ก้าวขึ้นมาจากการแข่งโกคาร์ส

นอกจาก Motorsport แล้ว กิจกรรมด้าน sport marketing มาสด้ายังให้การสนับสนุนฟุตบอลไทยกับทีมในไทยลีก นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ก่อให้เกิดกระแสบูมบอลไทย รวมทั้งเกิดการรับรู้เรื่องของการสร้างแบรนด์ นอกจากนี้มาสด้ากำลังเตรียมแสวงหากิจกรรมอื่นๆ เข้ามาเสริมสร้างภาพลักษณ์ความเป็นสปอร์ตของมาสด้า