AAS Body & Paint Centre of Excellence – แนะนำทีมรถแข่ง AAS Motorsport

บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่ (Porsche), เบนท์ลี่ย์ (Bentley) และผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์ระดับพรีเมี่ยม ออโต้กริม (Autoglym) อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย แถลงข่าวเปิดตัว AAS Body & Paint Centre of Excellence และแนะนำทีม AAS Motorsport อย่างเป็นทางการ

AAS Body & Paint Centre of Excellence ศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังรถยนต์ครบวงจรที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในเอเชีย แปซิฟิค ผ่านการขึ้นทะเบียนรับรองคุณภาพจากโรงงานผู้ผลิตรถยนต์หรู อาทิ ปอร์เช่ เบนท์ลี่ย์ จากัวร์ และแลนด์โรเวอร์ และมีความเชี่ยวชาญในการซ่อมแซมวัสดุประเภทอะลูมิเนียม คาร์บอนไฟเบอร์ และ เหล็กกล้า โดยได้ผ่านการปรับโฉมครั้งใหญ่ด้วยงบประมาณกว่า 120 ล้านบาท ภายใต้ขนาดพื้นที่กว่า 2,500 ตร.ม. เพียบพร้อมไปด้วยจุดปฏิบัติงานหลัก ได้แก่ “จุดวิเคราะห์ทางเทคนิค” โดยมีจุดเด่นอยู่ที่เครื่องมือตรวจวิเคราะห์สภาพรถแบบอิเล็คทรอนิกส์ หรือ Touch ที่สามารถตรวจเช็คและวิเคราะห์อาการของรถยนต์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

AAS Body & Paint Centre of Excellence ได้เลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานจากแบรนด์ Spanesi ซึ่งติดตั้งระบบกรองอากาศแบบพิเศษช่วยลดทั้งมลพิษทางเสียงและมลภาวะต่างๆ ที่เกิดจากการใช้สีรองพื้นและการขัดผิวหน้าชิ้นงาน โดยมี “ห้องซ่อมชิ้นส่วนอะลูมิเนียม” ที่ถูกออกแบบให้อยู่ในห้องที่มีการควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สำคัญมากของศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง “ห้องพ่นสีและห้องอบสี” ถูกออกแบบพิเศษสำหรับการพ่นสีของพื้นผิวรถ หรือชิ้นงานที่เป็นโลหะและที่ไม่ใช่โลหะ พร้อมฟังก์ชันการอบแห้งสีตามโปรแกรมความเหมาะสมในแต่ละชนิดของชิ้นงาน

อีกงานที่จัดขึ้นต่อเนื่องก็คือ การเปิดตัว AAS Motorsport ทีมรถแข่งมอเตอร์สปอร์ต ในปี 2018 นี้ ได้ผนึกกำลังทีมนักแข่งมากฝีมือ ประกอบไปด้วย วุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ ร่วมด้วยนักแข่งมากฝีมือการันตีด้วยตำแหน่งแชมป์รายการ Thailand Super Series 2017 และครองโพเดี้ยมในรายการแข่งขันหลายรายการ ได้แก่ กันตธีร์ กุศิริ, พสุ ลิปตพัลลภ, คมิก กรรณสูต และได้ Maxime Jousse นักแข่งมากฝีมือชาวฝรั่งเศส วัย 27 ปี ผู้มีประสบการณ์ในแวดวงกีฬามอเตอร์สปอร์ตระดับนานาชาติมากว่า 16 ปี

ทีม AAS Motorsport มีขุมกำลังรถแข่งประจำทีม 3 คัน ประกอบไปด้วย Bentley Continental GT3  โมเดลปี 2015 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 4.0 ลิตร ทวิน-เทอร์โบ V8 ได้รับการปรับแต่งการวางตำแหน่งเครื่องยนต์ไว้ให้อยู่บริเวณด้านหลังของห้องเครื่องให้มากขึ้นเพื่อการกระจายน้ำหนัก  มีระบบส่งกำลังไปที่ล้อหลังด้วยเกียร์ Sequential 6 speed เพลาทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ช่วงล่างแบบ Double wishbone หน้า-หลังเพื่อการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม ระบบเบรกจาก Brembo แบบหน้า 6 pot หลัง 4 pot พร้อมจานเบรกแบบมีครีบระบายความร้อน จำนวน 1 คัน และ Porsche Cayman GT4 Club Sport MR  โมเดลปี 2016 มาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบ 3.8 ลิตร กำลัง 385 แรงม้า ระบบส่งกำลังไปที่ล้อหลังด้วยเกียร์ PDK 6 speed ตัวถังน้ำหนักเบาด้วยโครงสร้างอะลูมิเนียม ติดตั้งโรลบาร์ตามมาตรฐาน FIA พวงมาลัย Alcantara พร้อมแป้นปั่นเกียร์ paddle shift จำนวน 2 คัน พร้อมประชันความเร็วแรงในสนามแข่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ