EVme ส่งมอบ AION ES ครบ 100 คัน
เดินหน้าพลิกโฉมระบบขนส่งสาธารณะอย่างต่อเนื่อง
นายสุวิชชา สุดใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด (กลาง) พร้อมด้วย นายหวัง หย่ง เจีย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โกลด์ อินทิเกรท จำกัด ผู้จัดจำหน่ายหลัก AION ES (ซ้าย) และ นายหยู เจี้ยง เหลี่ยว ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ไอออน ประเทศไทย (ขวา) ร่วมฉลองการส่งมอบยานยนต์ AION ES ครบ 100 คัน เดินหน้าพลิกโฉมขนส่งสาธารณะอย่างยั่งยืนต่อเนื่อง
บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด (EVme) ผู้ให้บริการยานยนต์ไฟฟ้า (EV) บนแพลตฟอร์มดิจิทัลแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้ฉลองการส่งมอบ AION ES (ไอออน อีเอส) ยานยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อเจาะกลุ่มผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ ครบ 100 คัน โดยนับเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในแผนงานต่อเนื่องที่จะช่วยรุกตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่อย่างเต็มรูปแบบและพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าส่งมอบ AION ES สู่ระบบขนส่งสาธารณะจำนวน 3,000 คันภายในปีนี้
นางสุวิชชา สุดใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด กล่าวว่า “นับตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2566 ที่เราได้มีการเผยแผนงานในการนำ AION ES เพื่อการขนส่งสาธารณะเข้ามา ซึ่งนับเป็นทางเลือกใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ขับขี่แท็กซี่ในเมืองไทย EVme และพันธมิตรร่วมดำเนินการตามเป้าหมาย เพื่อเปลี่ยนโฉมระบบขนส่งสาธารณะของเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังเพิ่มปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน และปูทางสร้างความพร้อมทั้งในส่วนของจุดชาร์จไฟฟ้า และศูนย์บริการเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท โกลด์ อินทิเกรท จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่าย AION ES ให้กับ EVme ผมมีความยินดีที่เราได้ส่งมอบยานยนต์ AION ES ครบ 100 คันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป้าหมายของเราคือการส่งมอบ AION ES สู่ระบบขนส่งสาธารณะจำนวน 3,000 คันภายในปีนี้ และคาดว่าจะส่งมอบครบ 400 คันใน
ไตรมาสแรก”
ปัจจุบัน รถแท็กซี่ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ๆ ทั่วประเทศจะมีการปลดระวางเมื่อครบกำหนดตามกฎหมายเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 6,000 คัน ซึ่งการที่ บริษัท อีวี มี พลัส ตั้งเป้าส่งมอบรถรุ่นดังกล่าวจำนวนถึง 3,000 คันในปีนี้ นับเป็นก้าวหนึ่งของการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศอย่างยั่งยืน จากการศึกษาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการขนส่งสาธารณะพบว่า รถแท็กซี่มีอัตราการปล่อยก๊าซเฉลี่ยปีละ 6 ตันต่อคัน ซึ่งปัจจุบันมีรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนในระบบขนส่งกว่า 85,000 คัน ทำให้ภาคส่วนนี้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าปีละ 500,000 ตัน และเพื่อเป็นการส่งเสริมนโยบายของรัฐบาลที่ตั้งเป้าผลักดันประเทศไทยสู่ฮับยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ EVme ได้นำ AION ES เข้าสู่ตลาดประเทศไทยเพื่อให้ผู้ใช้งานได้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพดี ในราคาที่สมเหตุสมผล
อย่างไรก็ตาม การใช้งานยานยนต์ในลักษณะขนส่งนั้นจะมีความต้องการที่เฉพาะตัว ซึ่งในเรื่องนี้ นายหวัง หย่งเจีย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โกลด์ อินทิเกรท จำกัด ได้กล่าวเสริมว่า “เราได้เล็งเห็นถึงความเหมาะสมของ AION ES ที่จะนำมาใช้เป็นรถแท็กซี่ไฟฟ้า เพราะตอบโจทย์ผู้ขับแท็กซี่ในเรื่องของอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานต่ำ สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้เป็นอย่างดี รวมทั้งสามารถทำระยะทางสูงสุดถึง 442 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว พร้อมมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารด้วยการมีพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขว้าง เหมาะสำหรับการใช้เป็นรถโดยสารสาธารณะ ในฐานะของผู้จัดจำหน่าย AION ES หลักให้กับ บริษัท อีวี มี พลัส เรามีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน”
แท็กซี่ AION ES นี้จะมาพร้อมระบบ Smart Taxi ซึ่งมีทั้งการติดตั้งมิเตอร์ ระบบ GPS และป้ายไฟแท็กซี่มาเรียบร้อย เมื่อรวมกับห้องโดยสารที่กว้างขวางแล้ว ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารจะพบกับความสะดวกสบายที่เหนือกว่า นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถมั่นใจได้ในเรื่องของความคุ้มค่า เนื่องจาก AION ES นั้นมีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ยอยู่ที่ 0.9 บาทต่อกิโลเมตร ในขณะที่รถแท็กซี่ที่ขับเคลื่อนด้วย NGV นั้นจะมีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานอยู่ที่ 1.5 บาทต่อกิโลเมตร และรถแท็กซี่ที่ขับเคลื่อนด้วย LPG จะมีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ยอยู่ที่ 2 บาทต่อกิโลเมตร พร้อมทั้งสามารถมั่นใจกับความสะดวกสบายในการบริการหลังการขายเพราะบริษัท อีวี มี พลัส จำกัด มีการจับมือกับศูนย์บริการแท็กซี่ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงในท้องถิ่นเพื่อให้บริการซ่อมบำรุงหนักสำหรับรถรุ่นนี้ รวมทั้งยังมีศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto ในกลุ่มปตท. ที่รองรับการซ่อมบำรุงแบบเบาทั่วประเทศ แท็กซี่ไฟฟ้า AION ES สามารถชาร์จได้ทุกสถานีชาร์จทั่วประเทศ และในปีนี้ บริษัท โกลด์ อินทิเกรท จำกัด ยังจะดำเนินการเปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้าเพิ่มเติม ภายใต้ชื่อ “Charge Hub” เพื่อเพิ่มจำนวนของสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้ครอบคลุม และเพียงพอมากอย่างขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ ผู้ขับขี่แท็กซี่ที่สนใจ สามารถจองและสั่งซื้อรถได้ที่ หรือสนใจเช่ารถแท็กซี่ไฟฟ้าได้ที่