MAZDA NEW CX-3 ทดสอบสมรรถนะและความน่าใช้ รุ่นปรับโฉมใหม่ พิสูจน์สมรรถนะและลองความแรง กับเครื่องยนต์ 2 รุ่น 2 พิกัด ทั้งเบนซิน และดีเซล กับช่วงล่างที่ปรับใหม่เน้นความสะดวกสบายมากกว่าเดิม สำหรับมาสด้าชื่อนี้ถือว่าได้รับความนิยมสูงขึ้นทุกขณะเนื่องจากการพัฒนารถของค่ายเดินทาถูกทาง เน้นสิ่งที่มาสด้าให้ความสำคัญมาตลอดนั่นก็คือเรื่องการขับขี่ที่สนุกสนาน ซึ่งเป็นพื้นฐานของผู้ขับทุกวัย หลายโมเดลโลดเล่นอยู่บนตลาดรถยนต์ และครองยอดจำหน่ายในอันดับหัวแถว และรุ่นที่เรามีโอกาสได้ทดลองขับกันนี้ก็ถือเป็นอีกรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่ที่สนุกสนาน กับการใช้งานที่หลากหลายมกกว่าเดิมนั่นกคือ MAZDA NEW CX-3 ซึ่งได้มีการปรับเปลี่ยนไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก่อนอื่นที่เราจะไปถึงความน่าใช้ ในส่วนของความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างชัดเจนในหลายๆ ส่วน ถือเป็นสิ่งที่มาสด้า ได้มีการปรับปรุงให้สอดคลองกับความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับ มาสด้า CX-3 ตัวเดิม
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกแบบภายนอกใหม่ที่แม้จะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย โดยส่วนที่เห็นได้ชัดเจนสุดของ MAZDA NEW CX-3 ก็คือเรื่องการปรับลวดลายของกระจังหน้าใหม่ให้ดูมีมิติมากขึ้น ชายกันชนด้านล่างมีคิวโครเมี่ยวสวยงามกว่าเดิม ใส่ฟ็อกแลมป์แบบใหม่ รวมไปถึงชายขอบประตูล่างก็เป็นโครเมี่ยม ส่วนไฟท้ายเป็นแอลอีดี รวมไปถึงล้อขนาด 18 นิ้วที่ออกแบบลายใหม่จากลายก้านตัววีคู่เป็นลายกังหัน 10 ก้า
เทคโนโลยี i-ACTIVSENSE ใน MAZDA NEW CX-3 2018 คอลเลคชั่น ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทางมาสด้าภูมิใจนำเสนอ โดยสิ่งที่น่าสนใจก็จะมีเรื่องของ ระบบ Advanced Blind Spot Monitoring (ABSM) & Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ระบบตรวจจับยานพาหนะจากด้านข้างและด้านหลังที่กำลังใกล้เข้ามาบริเวณจุดบอด พร้อมทั้งเตือนเมื่อผู้ขับขี่จะทำการเปลี่ยนเลน RCTA จะช่วยเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ระบบ Lane Departure Warning System (LDWS) ระบบคาดการณ์การเบี่ยงออกนอกเลน และเตือนผู้ขับขี่ถึงอันตรายผ่านทางเสียง, ระบบ Adaptive LED Headlamps (ALH) ระบบปรับการทำงานของไฟหน้าสูง-ต่ำ แยกอิสระซ้ายขวาอัตโนมัติ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพถนน ตำแหน่งรถคันหน้า รวมถึงรถที่วิ่งสวนมา เพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่, ระบบ Driver Attention Alert (DAA) ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุจากความเมื่อยล้า โดยส่งเสียงและสัญญาณไฟเตือนให้หยุดพัก เมื่อตรวจพบพฤติกรรมเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ นอกจากนี้ MAZDA NEW CX-3 ยังมีระบบ Mazda Radar Cruise Control (MRCC) ช่วยควบคุมความเร็ว และรักษาระยะห่างจากรถคันข้างหน้าอัตโนมัติ, ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง หรือ 360o View Monitor พร้อมมุมกล้องในแบบ Top View ช่วยให้การขับขี่ทำได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัยยิ่งขึ้น, ระบบ Smart City Brake Support (SCBS) และระบบ Smart City Brake Support-Reverse (SCBS-R) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะเดินหน้าและถอยหลัง ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุจากการชน และระบบ Smart Brake Support (SBS) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ เมื่อพบความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อลดโอกาสในการชนรถคันหน้า
ในส่วนของภายใน MAZDA NEW CX-3 ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปหลายจุดซึ่งก็น่าจะเป็นการออกแบบเพิ่มเติมในสิ่งที่รุ่นก่อนขาดหายไป รวมทั้งยังเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ว่าจะเป็นเรื่องเบรกมือเป็นมาเป็นแบบไฟฟ้า ลดพื้นที่และใช้งานได้ง่ายขึ้น คอนโซลกลางก็เพิ่มที่ท้าวแขนพร้อมช่องเก็บของที่สะดวกสบายขึ้น เรื่องความสวยงามก็ได้ปรับโทนสีใหม่ เปลี่ยนวัสดุหุ้มคอนโซลใหม่คล้ายหนังอาคันทาร่าสีเทา ซึ่งเป็นโทนสีที่ MAZDA NEW CX-3 นำมาใช้ให้เข้ากับสีภายในที่ยังเน้นเรื่องโทนดำเช่นเดิม
ในส่วนของเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลัง MAZDA NEW CX-3 แม้ภาพรวมจะยังไม่มีมีความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ยังคงคงามน่าสนใจในเรื่องของการขับขี่ไว้เช่นเดิม โดยเครื่องยนต์ยังมีให้เลือกใช้อยู่ 2 รูปแบบก็คือ เครื่องยนต์เบ็นซิน SKYACTIVE-G ขนาด 2.0 ลิตร ที่เรียกม้าออกมาใช้งานได้ 156 ตัวที่ 6,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 204 นิวตัน-เมตร ที่ 2,800 รอบ/นาที รองรับน้ำมันเบนซินจนถึง E85
เครื่องยนต์อีกตัวของ MAZDA NEW CX-3 ก็คือเครื่องยนต์ SKYACTIVE-D เป็นเครื่องยนต์ ดีเซลขนาด 1.5 ลิตร ที่แรงและประหยัดขึ้นด้วยเทอร์โบ แม้ว่าจะมีม้าเพียง 105 ตัว ที่รอบเครื่องยนต์ 4,000 รอบ/นาที ม้าไม่มากนัก แต่แรงบิดสูงสุดทำได้สูงถึง 270 นิวตัน-เมตร ที่รอบเครื่องยนต์ตั้งแต่ 1,600 – 2,500 รอบ/นาที
MAZDA NEW CX-3 มีจุดเด่นของเครื่องยนต์เบนซินที่ถือว่าน่าสนใจก็คือเรื่องของกำลังเครื่องยนต์ที่สามารถเรียกเอามาใช้งานได้อย่างต่อเนื่องนิ่มนวลมากกว่าเครื่องยนต์ดีเซล แม้บางครั้งต้องใช้รอบสูงกว่า แต่ก็ดูเหมือนว่าการตอบสนองคันเร่งไม่กระชากหรือวูบวาบตามลักษณะของเครื่องยนต์ที่แรงบิดสูงๆ ซึ่งในตัวเครื่องยนต์ดี เซลก็เน้นในเรื่องการขับขี่ที่สนุกสนาน ม้าน้อยแต่แรงบิดและเทอร์โบก็ทำงานประสานกันได้ดีเมื่อถึงเวลาที่เราต้องการเร่งแซง ปลายอาจจะไม่ไหลแต่จะขับสนุกเร่งแซงทันใจในช่วงต้น และกลาง ที่สำคัญตัวเครื่องยนต์ดีเซลนั้นถือว่ามีอัตราประหยัดน้ำมันที่ค่อนข้างโดดเด่นกว่าตัวเครื่องยนต์เบนซิน อย่างเห็นได้ชัด ไม่ต่ำกว่า 20 เปอร์เซ็นทีเดียว
ด้านการขับขี่ช่วงล่างของ MAZDA NEW CX-3 ในรุ่นนี้มีการปรับให้ดูนุ่มนวลมากกว่าเดิม จำได้ว่าในรุ่นก่อนจะออกแนวสปอร์ตและมีความกระด้างมากกว่า แต่ปัจจุบัน รถยนต์หลายรุ่น หลายแบรนด์ หันมาให้ความสำคัญกับการขับขี่ที่สะดวกสบาย ช่วงล่างนุ่มนวลมากขึ้น และแน่นอนว่าการออกแบบก็ต้องมีการปรับจูนเพื่อให้สามารถเป็นไปตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุดใน MAZDA NEW CX-3 ก็เลยต้องปรับให้นั่งสบายกว่าเดิม แต่ก็ยังต้องมีโจทก์ในด้านการเกาะถนนเช่นเดิมด้วย โดยช่วงล่างหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัทและหลังทอร์ชั่นบีม ทำงานร่วมกับพวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนี่ยนที่ใช้เพาเวอร์ไฟฟ้า ปรับจูนให้เข้ากันได้ดีพอสมควร และถือเป็นรถที่มีทั้งพลังและการขับขี่ที่สนุกสนานไม่ทิ้งคอนเซ็ปท์เดิมที่ตั้งใจเอาไว้ในช่วงแรกเริ่มของการออกแบบ
ขอตบท้ายกันด้วยเรื่องของราคา MAZDA NEW CX-3 ทั้งสองรุ่นที่เราทดสอบก็คือตัวท็อปรุ่น 2.0 SP เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-จี ขนาด 2.0 ลิตร ราคา 1,083,000 บาท และรุ่น 1.5 XDL เครื่องยนต์คลีนดีเซลสกายแอคทีฟ-ดี ขนาด 1.5 ลิตร ราคา 1,189,000 บาท น่าสนใจทั้งคู่