NEW MG MAXUS 9 ลักชัวรี MPV พลังงานไฟฟ้า 100% 7 ที่นั่ง

NEW MG MAXUS 9  

NEW MG MAXUS 9 ลักชัวรี MPV พลังงานไฟฟ้า 100% 7 ที่นั่ง กับความหรูหราและเหนือระดับด้วยนวัตกรรมสุดล้ำสมัยพร้อมอำนวยความสะดวกสบายให้ทั้งคนนั่งและคนขับ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานรอบด้านด้วยพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง มาพร้อมฟังก์ชันอำนวยความสะดวกรอบคัน กับความโดดเด่นที่ผสมผสานความลงตัวของทั้งสมรรถนะการขับขี่ (PERFORMANCE) การควบคุม (HANDLING) การออกแบบ (DESIGN) และความปลอดภัย (SAFETY) สู่ประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟตลอดเส้นทาง 

DESIGN: หรูหรา สะดวกสบาย อัดแน่นด้วยฟังก์ชั่นการใช้งาน

NEW MG MAXUS 9 ออกแบบให้หรูหรา ที่จะมาแต่งเติมเอกลักษณ์ความมีสไตล์ สะท้อนตัวตนและรสนิยมได้เป็นอย่างดี 

Exterior Design: ลักชัวรี่เอ็มพีวีที่สะกดทุกสายตาบนท้องถนน

  • มิติตัวถัง 5,270 x 2,000 x 1,840 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
  • ระยะความยาวฐานล้อ 3,200 มิลลิเมตร
  • ระยะต่ำสุดจากพื้น 140 มิลลิเมตร
  • ไฟหน้า ไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟท้าย LED พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ
    • ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) 
  • ล้ออัลลอยด์ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางแบบ Run Flat
  • กระจกมองข้างพับและปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว 
  • ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง และ สปอยเลอร์หลัง
  • ฝาครอบเครื่องพร้อมช่องเก็บสัมภาระ
  • หลังคา Dual Panoramic Sunroof
  • ประตูสไลด์ด้านข้างเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า

Interior Design: หรูหราดูพรีเมียม รองรับทุกโจทย์ความต้องการระดับลักชัวรี่

พื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง พร้อมดีไซน์การตกแต่งให้หรูหรา แต่แฝงด้วยฟังก์ชันการใช้งานไว้รองรับอยู่รอบคัน สะดวกสบายด้วยเบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารปรับไฟฟ้า เบาะนั่งแถวที่สองแบบ Captain Seat พร้อมระบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และรองรับการเชื่อมต่อทุกรูปแบบ

    • ดีไซน์คอนโซลหน้าแบบ Double Layer พร้อมที่วางแก้ว และรองรับการชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charger) 
    • เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ พร้อมการตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบ SOFT TOUCH และไฟห้องโดยสาร Ambient Light ถึง 64 สี
    • เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง 
    • เบาะนั่งแถวที่สองในรุ่น V แบบ VIP  Captain Seat พร้อมระบบจดจำตำแหน่งการนั่ง (Memory Seats) ระบบนวด เบาะอุ่นและระบายความร้อนควบคุมผ่านหน้าจอ Touch Screen พร้อมช่องวางโทรศัพท์ โต๊ะพับและที่วางแก้ว
    • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์
    • หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว (Digital Interactive Multi-function Display) และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมลำโพง 12 จุด
    • ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB 9 จุด และช่องจ่ายไฟ AC Adaptor 220V 
    • รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android 
    • กระจกมองหลังผ่านกล้อง Streaming Media Rearview Mirror
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมิติ แยกบริเวณด้านหน้าและหลังอิสระ พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5
  • ระบบกุญแจนิรภัยแบบอัจฉริยะ พร้อมระบบ Push Start 

E- PERFORMANCE: ครั้งแรกของประเทศไทยกับเอ็มพีวีขุมพลังไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมสมรรถนะที่เหนือระดับ

อีกระดับแห่งสมรรถนะรถไฟฟ้า ด้วยขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 245 แรงม้า ด้วยแบตเตอรี่ขนาดความจุ 90 kWh พร้อมระบบระบายความร้อน

  • ขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ให้พละกำลังสูงสุดที่ 180 กิโลวัตต์ หรือ 245 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร
  • แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion จัดวางแบบ Cell To Pack ขนาดความจุ 90 kWh สามารถวิ่งในระยะทางสูงสุด 540 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC 
  • แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
  • ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย 
  • ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)
  • รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 6.4 เมตร 
  • ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และดิสก์เบรกหลัง
  • ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงค์

SAFETY: วางใจได้ในทุกการขับเคลื่อน ปลอดภัยตลอดเส้นทาง

NEW MG MAXUS 9 มาพร้อมระบบโครงสร้างนิรภัยปรับแต่งระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM พร้อมระบบ ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) รวม 25 ระบบ ได้แก่

  • ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame)
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
  • ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution)
  • ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
  • ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
  • ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
  • ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
  • ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
  • ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
  • ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) และ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane keep Assist)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK 

(Emergency Lane Keeping Assist)

  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
  • ระบบช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา (LCA/ BSD/ RCTA/ DOW)
  • จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX บริเวณที่นั่งแถว 2 และ 3
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
  • กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ
  • สัญญาณเตือนระยะเดินหน้าและถอยหลัง

NEXT LEVEL OF CHARGING: เหนือระดับกับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าทั่วไทย 

NEW MG MAXUS 9 รองรับระบบการชาร์จ 2 รูปแบบทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge ให้ผู้ใช้งานสามารถเดินทางสะดวกสบายได้ทั่วประเทศ ด้วยความพร้อมของสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG Super Charge ที่พร้อมให้บริการแล้วกว่า 129 แห่งทั่วประเทศ 

  • ชาร์จแบบเร็ว DC Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 30% – 80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที* ความเร็วสูงสุด 120 kWh
  • ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 5% – 100% ใช้เวลาประมาณ
    8 ชั่วโมง 30 นาที* รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kWh

*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า

NEW MG MAXUS 9 ประกอบด้วย 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น X – LUXURY และรุ่น V – SUPER LUXURY โดยรุ่น X มีสีตัวถังให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว (Pearl White) สีดำ (Black Knight) และในรุ่น V มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว (Pearl White) สีดำ (Black Knight) สีเทาหลังคาดำ Granite Grey / Black Top