ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) เพิ่มเฉดสีตัวถังใหม่
พร้อมปรับโฉมนวัตกรรมในการติดต่อสื่อสาร เพื่อเพิ่มทางเลือกและยกระดับประสบการณ์ในการใช้งานแด่ลูกค้าปอร์เช่
ยกระดับเทคโนโลยี เสริมอุปกรณ์ล้ำสมัยสำหรับ ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) รุ่นใหม่ล่าสุด
สตุ๊ทการ์ท. ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) และ ไทคานน์ ครอส ทัวริสโม ใหม่ (The new Taycan Cross Turismo) เตรียมยกระดับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกหลายรายการ การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นเช่นเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ประกอบด้วย ฟังก์ชั่น Android Auto ในระบบ Porsche Communication Management (PCM) และการเพิ่มสีใหม่ด้วยเฉดสีพิเศษในรูปแบบ Paint to Sample และ Paint to Sample Plus สำหรับอุปกรณ์พิเศษเพื่อรองรับทางเลือกอันหลากหลายในการสร้างสรรค์รถสปอร์ตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อาทิ สี Rubystar สุดคลาสสิกจากยุค 90 หรือเพิ่มความสดใสให้การขับขี่ด้วยสี Acid Green สำหรับ model year ใหม่ล่าสุดนี้จะได้รับการเผยโฉมต่อสายตาสาธารณชนภายในเดือนกันยายน
Kevin Giek รองประธานกรรมการผู้ดูแลโมเดล ไทคานน์ กล่าวว่า “การพัฒนาเทคโนโลยีในรถสปอร์ตของเราเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการพัฒนาดังกล่าว ถือเป็นส่วนหนึ่งของ DNA ปอร์เช่ โดย ไทคานน์ (Taycan) เจเนอเรชั่นล่าสุด จะได้รับการเสริมประสิทธิภาพด้วยฟังก์ชั่น Android Auto ที่สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้อย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งปัจจุบันรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า ไทคานน์ (Taycan) ทุกรุ่น รวมถึงรุ่นตัวถังใหม่ ครอส ทัวริสโม (Cross Turismo) ที่เข้ามาเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับยนตรกรรมสปอร์ตไฟฟ้าของปอร์เช่ กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พิสูจน์ได้จากตัวเลขยอดจองที่ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากกลุ่มลูกค้าปอร์เช่”
เทคโนโลยีสุดล้ำ ยกระดับการขับขี่ให้ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ปอร์เช่ ไทคานน์ รุ่นใหม่ล่าสุด (The new Porsche Taycan) จะไม่ถูกจำกัดด้วยข้อกำหนดด้าน homologated อีกต่อไป ดังนั้นจึงไม่มีการทดสอบพิสัยการเดินทางตามมาตรฐาน WLTP เพื่อหาค่าใหม่ อย่างไรก็ตามระยะทางที่รถไทคานน์ รุ่นล่าสุดสามารถขับขี่ได้จะตอบสนองต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น โดยผู้ครอบครองไทคานน์ (Taycan) จะได้รับประสบการณ์ใหม่ในการใช้งานจากข้อได้เปรียบของการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี ด้วยการพัฒนาระบบต่างๆ อาทิ การขับขี่ในโหมด Normal และ Range ที่มอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้าจะรับหน้าที่ส่งกำลังขับเคลื่อนทั้งหมด และจะลดกำลังขับลงบางส่วนเมื่ออยู่ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive ยิ่งไปกว่านั้น กำลังขับเคลื่อนจะไม่ถูกถ่ายทอดไปยังเพลาขับ ในขณะปล่อยไหล หรือจอดนิ่งอยู่กับที่ฟังก์ชั่น electric freewheel จะช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองจากแรงต้านทานมอเตอร์ ซึ่งทำให้กำลังขับเคลื่อนกลับมาทำงานอีกครั้ง ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วระดับมิลลิวินาที ทันทีที่ผู้ขับขี่ต้องการกำลังขับเคลื่อนที่มากขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงโหมดการขับขี่ นอกจากนี้ระบบจัดการอุณหภูมิ thermal management และฟังก์ชั่นการชาร์จพลังงานล้วนได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน
Android Auto: ผสานการทำงานเป็นหนึ่งเดียวกับระบบความบันเทิงภายในรถยนต์
ระบบ Porsche Communication Management (PCM) เจเนอเรชั่นที่ 6 ถูกติดตั้งลงในปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) นับตั้งแต่เปิดตัว ดังนั้น ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) จึงถือเป็นผู้บุกเบิกการเชื่อมต่อของโลกไร้พรมแดนได้อย่างแท้จริง ซึ่งปัจจุบันภายในรถไทคานน์ ได้รวมฟังก์ชั่น Apple Music Apple Podcasts และ Android Auto บรรจุลงระบบ PCM และApple CarPlay ที่รองรับการใช้งานร่วมกับ iPhone ซึ่งหมายความว่า ระบบ PCM สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ ที่มีระบบปฏิบัติการ Google Android ดังนั้นการทำงานของระบบ PCM หรือสั่งการด้วยเสียงผ่าน Google Assistant voice commands จะช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ หรือแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ ได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในขณะขับขี่รถยนต์อีกต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงระบบนำทางผ่านดาวเทียม satellite navigation ให้มีการประมวลผลรวดเร็วขึ้นส่งผลให้การค้นหาสถานที่อันเป็นจุดหมายปลายทาง หรือ points of interest (POI) การแสดงผลบนหน้าจอ การจัดลำดับภาพ มีความชัดเจนยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันระบบปฏิบัติการก็ได้รับการปรับแต่งให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มเมนูสั่งการพิเศษ บริเวณฝั่งซ้ายของหน้าจอบนคอนโซลกลางจากเดิม 3 แถบเมนูสั่งการ เป็น 5 แถบเมนูสั่งการ รวมถึงการปรับเปลี่ยน การเรียงลำดับไอคอนต่างๆ ของผู้ขับขี่ได้อย่างอิสระ
ย้อนเวลาด้วยการสร้างสรรค์เฉดสีตัวถังใหม่ เพื่อตอกย้ำตัวตนที่ไม่เหมือนใครของคุณ
ยุค 90 ถือเป็นยุคทองของปอร์เช่ 964 (Porsche 964) รถสปอร์ตสุดคลาสสิกของปอร์เช่ ได้สร้างสรรค์เฉดสีตัวถังอันเจิดจรัสเอาไว้มากมาย เพียงวินาทีแรกที่เฉดสีตัวถังสะท้อนเข้าที่ดวงตาของบรรดาผู้หลงใหลในยนตกรรมสปอร์ตปอร์เช่ ก็สามารถทำให้พวกเขาเหล่านั้น ย้อนเวลากลับไประลึกถึงช่วงเวลาดังกล่าวได้อย่างชัดเจนอีกครั้ง การเพิ่มเฉดสีตัวถังใหม่ถือเป็นโอกาสที่ดีในการหวนกลับมาเฉิดฉายของเฉดสีตัวถังในยุค 90 Porsche Exclusive Manufaktur ในฐานะส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ การดำเนินงานเพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ของ ปอร์เช่ ไทคานน์ รุ่นใหม่ล่าสุด (The new Porsche Taycan) นำเสนอแพ็กเกจเฉดสีตัวถัง ในรูปแบบ Paint to Sample และ Paint to Sample Plus ให้แก่ลูกค้าปอร์เช่ ด้วยการเพิ่มเฉดสีตัวถังใหม่จากสีมาตรฐานเดิมถึง 17 สี พร้อมเฉดสีตัวถังพิเศษมากกว่า 65 สี ซึ่งเป็นการรวมสีที่มีในรถยนต์ปอร์เช่โดยเฉพาะ อาทิ สี Moonlight, สี Blue Metallic, สี Acid Green, สี Rubystar, สี Riviera Blue และ สี Viola Metallic สำหรับรูปแบบ Paint to Sample Plus ซึ่งเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เลือกเฉดสีที่ต้องการได้อย่างอิสระ และรองรับการจับคู่ระหว่าง รถไทคานน์ (Taycan) และอุปกรณ์ตกแต่งที่ชื่นชอบได้อีกด้วย
ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) รถสปอร์ตไฟฟ้ายอดนิยม
ไทคานน์ (Taycan) ประสบความสำเร็จอย่างมากภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนหลังจากเปิดตัว ด้วยยอดส่งมอบมากกว่า 20,000 คัน ในครึ่งแรกของปี 2021 และปัจจุบันมียอดจำหน่ายสะสมใกล้เคียงกับสถิติยอดรวมทั้งปี 2020 ที่ผ่านมา ทำให้ยอดจำหน่ายของรถพลังงานไฟฟ้าคันแรกของแบรนด์มีตัวเลขใกล้เคียงกับยอดจำหน่ายของรถสปอร์ตระดับตำนานอย่างปอร์เช่ 911 (Porsche 911)
การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารในส่วนของปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan)
เดือนเมษายน 2021 ที่ผ่านมา Kevin Giek เข้ามารับตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหาร ภายใต้การดูแลส่วนงานของโมเดล ไทคานน์ (Taycan) แทน Stefan Weckbach ซึ่งขณะนี้ย้ายไปดูแลส่วนงานด้านผลิตของปอร์เช่ คาเยนน์ (Porsche Cayenne) Kevin Giek ร่วมงานกับ Porsche AG มาเป็นระยะเวลา 18 ปี โดยเขามีหน้าที่รับผิดชอบงานด้านการจัดซื้อ และการจัดจ้าง สำหรับโครงการรถยนต์รุ่นใหม่ ด้วยบทบาทดังกล่าว จึงทำให้เขามีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) พร้อมทีมงานคุณภาพกว่า 190 ชีวิต
Kevin Giek มีหน้าที่ในการรับผิดชอบ รวมถึงดูแลกระบวนกาจัดจ้าง และการจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์สำหรับติดตั้งในโรงงานแห่งใหม่ที่ Stuttgart-Zuffenhausen วิถีชีวิตในครอบครัวของเขา มีส่วนสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจเข้ามาปฏิบัติงานกับบริษัท โดยเมื่อครั้งที่เขายังเป็นเด็ก Kevin Giek ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ติดตามบิดาเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมการทดสอบเครื่องยนต์ของ ปอร์เช่ สำหรับ Porsche aircraft engines Kevin Giek สำเร็จการศึกษาจาก University of Design, สาขาวิศวกรรมศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ ในเมือง Pforzheim
ติดตามข้อมูลข่าวสาร ภาพยนตร์ และภาพถ่ายได้ที่ Porsche Newsroom: newsroom.porsche.com
อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยและอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้รับการตรวจสอบตามมาตรฐานสากล ที่สอดคล้องกับวิธีการ Light Vehicle Test Procedure (WLTP) ล่าสุด สำหรับอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย ตามมาตรฐาน NEDC ที่ระบุในบทความนี้ ใช้อ้างอิงได้เฉพาะสภาพการทดสอบในช่วงเวลาเดียวเท่านั้น ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับค่าการตรวจวัดอัตราการบริโภคของ NEDC ที่ได้จากวิธีการอื่นใดก่อนหน้าการทดสอบนี้
สำหรับข้อมูลอย่างเป็นทางการของผลทดสอบอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยและอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกโซด์ ในรถยนต์รุ่นใหม่อื่นๆ สามารถค้นหาได้จากเอกสาร “Guidelines on fuel consumption, CO2 emissions and power consumption of new passenger cars” [Leitfaden über den Kraftstoffverbrauch, die CO2–Emissionen und den Stromverbrauch neuer Personenkraftwagen], ผ่านตัวแทนจำหน่ายและสถาบัน Deutsche Automobil Treuhand GmbH (DAT) , Hellmuth-Hirth-Strasse 1, D-73760 Ostfildern โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) (ทดสอบตามมาตรฐาน NEDC)
อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ย 28.7 – 26.2 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 0 กรัมต่อกิโลเมตร
ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) (ทดสอบตามมาตรฐาน WLTP)
อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ย 26.6-20.4 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 0 กรัมต่อกิโลเมตร พิสัยการเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้า 335-484 กิโลเมตร; พิสัยการเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าในเมือง 382-524 กิโลเมตร
ปอร์เช่ ไทคานน์ ครอส ทัวริสโม ใหม่ (The new Taycan Cross Turismo) (ทดสอบตามมาตรฐาน NEDC)
อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ย 29.4-28.1 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 0 กรัมต่อกิโลเมตร
ปอร์เช่ ไทคานน์ ครอส ทัวริสโม ใหม่ (The new Taycan Cross Turismo) (ทดสอบตามมาตรฐาน WLTP)
อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ย 26.4-22.4 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 0 กรัมต่อกิโลเมตร พิสัยการเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้า 388-456 กิโลเมตร; พิสัยการเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าในเมือง 438-541 กิโลเมตร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
AAS Auto Service Co., Ltd. โทร. 02-522-6655 ext. 101-103 หรือ https://dealer.porsche.com/thailand
Porsche Centre Bangkok โทร. 02-522-6655
Porsche Centre Pattanakarn โทร. 02-369-1111
Porsche City Showroom Siam Paragon ชั้น 2 โทร. 02-610-9911
Porsche Studio Bangkok ICONSIAM ชั้น 1 โทร. 02-288-0911