ลุยไปกับ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่

ลุยไปกับ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ ขับออฟโรด ทดสอบระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

รถยนต์ใน segment ที่ต้องยอมรับว่า ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง จากค่าย Mitsubishi นั่นก็คือ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ซึ่งได้มีการเผยโฉมออกสู่สายตา ของผู้บริโภค มาก่อนหน้านี้ ความน่าสนใจ ของรถยนต์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นกระบะดัดแปลงหรือว่า PPV ยังเป็นรูปแบบของรถยนต์ที่คนไทยให้ความสำคัญ และชื่นชอบ ในความเป็นอเนกประสงค์ และวันนี้เรามีโอกาสได้นำเจ้า Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ มาพิสูจน์ ในด้านการใช้งานอย่างเต็มรูปแบบทั้งเรื่องของสมรรถนะ และการขับขี่ บนเส้นทางที่หลากหลาย มาให้ทุกท่านได้สัมผัส ถึงความน่าใช้กันอย่างเต็มที่

บททดสอบในการใช้งานจริงของ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ เริ่มต้น จากกรุงเทพฯ ใจกลางเมือง ร้านอาหารหรูย่านถนนสาทร ฝ่าการจราจรที่คับคั่ง แม้จะเป็นช่วงเที่ยง แต่ก็มี ปริมาณรถที่หนาแน่น ซึ่งช่วงนี้เรามีโอกาสได้ลองในเรื่องของ ความคล่องตัว การใช้งานรวมทั้งฟังก์ชันเรื่องของความปลอดภัยต่างๆ ซึ่ง Pajero Sport ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง ก่อนที่เราจะเดินทาง มุ่งหน้าลงใต้ ไปตามถนนพระราม 2 เข้าสู่จังหวัด เพชรบุรี และไฮไลท์ที่สำคัญของการเดินทางก็คือ การปรับฟังก์ชั่นของการขับขี่ บนเส้นทางก่อนรถเข้าสู่โหมดออฟโรด บนเส้นทาง ดินโคลน ของป่า ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

       

Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ กับการปรับโฉมที่โฉบเฉี่ยวขึ้น

แต่ก่อนที่เราจะพาทุกท่านไปลุยเส้นทางออฟโรด เรามาทำความรู้จัก Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ กับการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจยิ่งขึ้น ในครั้งนี้ ให้มากกว่าเดิม

Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ถึงแม้จะมี รูปทรง ที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแต่ก็มีการออกแบบหรือว่าการดีไซน์ ที่ดูสวยงามทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการออกแบบด้านหน้าที่เขาเรียกว่าเป็นแบบ Advance Dynamic Shield ซึ่งก็ถือเป็นเอกลักษณ์ของ Mitsubishi motors

โดยชุดไฟหน้าเป็นแบบโปรเจคเตอร์ Bi-LED พร้อมระบบปรับ ระดับลำแสงอัตโนมัติและชุด ไฟ คอมบิเนชั่น ที่ติดตั้งอยู่ด้านนอก ของกันชนหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มประโยชน์ใช้สอยในเรื่องของการส่องสว่าง รวมทั้ง ยังเสริม รูปลักษณ์ ให้ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ดู บึกบึน และทรงพลังมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ยังปรับเปลี่ยนการ ออกแบบด้านหน้าด้วยการยกขอบฝากระโปรงให้สูงกว่าเดิม เพิ่ม สมรรถนะในการลุย ได้มากยิ่งขึ้น โดยจะช่วยลดความเสียหายจาก น้ำท่วมและสิ่งกีดขวางอื่นๆ

ส่วนการดีไซน์ทางด้านหลังของมิตซูบิชิปาเจโร่สปอร์ตใหม่ ก็ยังเน้นในเรื่องของความแข็งแกร่ง โดยออกแบบกันชนให้มีขนาดใหญ่แผงกันกระแทกด้านล่างบันไดข้างติดตั้งในตำแหน่งที่สูงขึ้น เพื่อเพิ่มสมรรถนะ บนเส้นทางออฟโรด ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไฟท้ายก็มีการออกแบบใหม่ แต่ทรง ก็คล้ายในรุ่นก่อน ส่วนเสาอากาศก็เปลี่ยนมาเป็นแบบครีบฉลาม ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ดูแล้ว โฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามแม้มิตซูบิชิปาเจโร่สปอร์ตใหม่จะเน้นในเรื่องของการลุยแต่สิ่งนึงที่ ยังคงไว้ซึ่งความสปอร์ตให้ได้เห็นก็คือการเปลี่ยนมาใช้ล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 18 นิ้ว ที่มาพร้อมกับยาง Toyo Open Country ขนาด 265/60 R18 เป็นยางประเภท Highway Terrain ซึ่งเน้นในเรื่องของการขับขี่บนท้องถนนมากกว่าการลุย ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาพิสูจน์กันว่าประสิทธิภาพในการลุยทางโคลนของมิตซูบิชิปาเจโร่สปอร์ตใหม่ จะตอบสนองความต้องการของบรรดา ขาลุยชาวออฟโรดได้มากน้อยขนาดไหน

ภายในมากด้วยประโยชน์ใช้สอย ฟังก์ชั่นใหม่ใช้แทบไม่ครบ

มาว่ากันต่อในส่วนของการออกแบบภายในห้องโดยสาร Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ ยังคง Concept ความหรูหราตามสไตล์ รถพีพีวีที่ตอบโจทย์ในเรื่องของอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ซึ่งจัดมาให้มากกว่าเดิมรวมทั้งเทคโนโลยีการเชื่อมต่อและการควบคุม การใช้งาน ด้วยจอแสดงข้อมูลเกี่ยวกับการขับขี่ แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว จึงง่ายต่อการอ่าน ส่วนบนแผงหน้าปัดมีการแสดงผลของมาตรวัดความเร็วมากวัดรอบเครื่องยนต์และข้อมูลอื่นๆของตัวรถ

พร้อมกับแสดงสถานะของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบหน้าจอได้ถึง 3 แบบ รองรับเมนูภาษาไทยสามารถเชื่อมต่อและแสดงข้อมูลจากหน้าจอระบบสัมผัส SDA (Smartphone Link Display Audio) ขนาด 8 นิ้ว ซึ่ง ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากจากจอแสดงข้อมูลการขับขี่อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนและ Apple Car Play ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส

ส่วนผู้โดยสารตอนหลังก็สามารถเพลิดเพลินกับระบบความบันเทิง ตลอดการเดินทางด้วยจอภาพรีโมทคอนโทรลขนาด 12.1 นิ้วติดตั้งบนเพดานรถ และจะรองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB และ Smart Phone โดยมีช่อง HDMI ไว้ให้ด้วย ซึ่งจอดด้านหลังนี้สามารถสะท้อนหน้าจอ โดยเชื่อมต่อกับอุปกรณ์พิเศษ ซึ่งก็คือตัวปล่อยสัญญาน WiFI ในการเชื่อมต่อถ้าใครนึกไม่ออกให้นึกถึง โทรทัศน์แบบ Smart TV ที่สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ด้วยการสะท้อนหน้าจอ แต่สำหรับมิตซูบิชิปาเจโรสปอร์ตใหม่นี้ อาจจะยังดูไม่สมบูรณ์มากนักเนื่องจากยังมีอุปกรณ์ เชื่อมต่อ ไม่ได้บินเหมือนจอ กล่องโทรทัศน์ ที่เป็นแบบ Smart TV ซึ่งเราก็หวังไว้ลึกๆว่า ถ้ามีการปรับเปลี่ยน หรือไม่ได้เช็คในรอบหน้า แล้วฟังก์ชันนี้ยังอยู่คู่กับ Mitsubishi Pajero Sport ก็ควรที่จะ บินมาในจอ 12.1 นิ้วนี้ด้วยเลย

สิ่งอำนวยความสะดวกอีกอย่างนึงที่ พูดข้ามไปไม่ได้ก็คือ เรื่องของ ประตูหลังแบบ เปิดปิดด้วย ไฟฟ้า แต่ว่า มีความพิเศษกว่าการเปิดปิดด้วยระบบสัมผัส ในรุ่นนี้จะมีระบบที่เรียกว่า Electric tailgate with Hand free เป็นระบบที่ช่วยเปิดปิดประตูท้าย ไฟฟ้า โดยการใช้เท้า เตะไปที่มุมกันชนด้านล่างของท้ายรถ ประตูจะเปิดเองอัตโนมัติ ซึ่งระบบนี้จะทำงานควบคู่กับกุญแจอัจฉริยะ โดยจำเป็นจะต้องถือกุญแจ ลืมพกกุญแจไว้กับตัว ระบบเปิดประตูถึงจะทำงาน

ลูกเล่นอีกอย่างนึงของมิตซูบิชิปาเจโร่สปอร์ตใหม่ ก็คือ Application ที่ทำให้สมาร์ทโฟนของคุณ กลายเป็นรีโมทคอนโทรล สามารถสั่งเปิดปิดประตูท้าย ล่วงหน้า ได้โดยอัตโนมัติ ในระยะเวลาไม่เกิน 20 นาที นอกจากนี้ ยังมีระบบช่วยเหลือพร้อมแจ้งสาเหตุผ่านสมาร์ทโฟน

ในกรณีที่คุณไม่สามารถล็อครถได้เช่นไม่มีกุญแจ เปิดประตู หรือประตูปิดไม่สนิทลืมดับเครื่องยนต์ รวมไปถึงการลืมนำเอากุญแจออกจากรถด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบแจ้งเตือนถึงสถานะของรถเช่นลืมล็อครถลืมเปิดไฟหน้าไว้ ซึ่งก็จะสามารถจัดการ ล็อครถยนต์ผ่านสมาร์ทโฟนรวมทั้งปิดไฟฉุกเฉิน เป็นต้น

อีกฟังก์ชันหนึ่งก็คือการแสดงข้อมูลและประวัติการใช้งาน เป็นต้นว่าเรื่องของอัตราเฉลี่ยการบริโภคน้ำมันระยะการเดินทางหรือประวัติการใช้รถ ซึ่งในฟังก์ชันนี้เราอาจจะไม่ได้ลองเล่นกันแบบเต็มรูปแบบนัก แต่ก็มี การสาธิตวิธีการใช้งาน ซึ่งแน่นอนครับว่า ในบางส่วนอาจจะยังต้องติดปัญหาเรื่องของการใช้งาน ผ่าน Application บ้าง น่าจะเป็นเรื่องปกติธรรมดา

ในการขับรถบนถนน สิ่งหนึ่งที่ ระบบความปลอดภัยในมิตซูบิชิปาเจโร่สปอร์ตใหม่ ช่วยได้ก็คือระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตาพร้อมระบบส่งสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลนส์ โดยใช้เรดาร์ที่ติดตั้งบริเวณกันชนหลังในการตรวจจับรถคันหลังที่วิ่งอยู่ในช่องจราจรถัดไปก่อนแจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยสัญญาณไฟกระพริบบนกระจกมองข้างและแจ้งเตือนผ่านสัญญาณเสียงถ้าผู้ขับขี่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนช่องจราจรและตรวจพบว่ามีรถคันหลังอยู่ในจุดอับสายตาขณะกำลังวิ่งใกล้เข้ามาในช่องจราจรนั้น นี่ก็ถือว่าเป็น อุปกรณ์ที่ช่วยให้ เพิ่มในเรื่องของความปลอดภัยขณะเราขับขี่อยู่บนท้องถนนมากยิ่งขึ้น

เครื่องยนต์ขับสนุกกว่าเดิม แรงบิดสูง ม้าเพียงพอต่อการใช้งาน

สำหรับเครื่องยนต์ในมิตซูบิชิปาเจโร่สปอร์ตใหม่ เป็นเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร mivec VG Turbo Clean ดีเซล เรียกแรงม้าออกมาใช้งานได้ถึง 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที ส่วนแรงบิดสูงสุดสูงถึง 430 นิวตันเมตรที่ 2,500 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นปกติของเครื่องยนต์ดีเซล ที่ใช้รอบเครื่องยนต์ไม่สูงนัดแต่ได้แรงบิด มหาศาล สำหรับรถที่นำมาให้ทดสอบกันนั้นเป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ GT Premium รูปทรง รวมทั้ง อุปกรณ์ต่างๆ ก็จะคล้ายกับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ GT Premium แต่จะมีความพิเศษในเรื่องของระบบความปลอดภัยบางอย่างเหนือกว่า

เป็นต้นว่า ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติหรือ Hill descent control HDC มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Super select 4WD II มาพร้อมดิฟเฟอเรนเชียล lock ที่เฟืองท้าย ระบบเกียร์ อัตโนมัติ 8 Speed พวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรง สำหรับช่วงล่างด้านหน้าเป็นดับเบิ้ลวิชโบนคอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง สวนด้านหลัง เป็นแบบ 3 Link torque Arm คอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง ระบบเบรคดิส 4 ล้อ พร้อมช่องระบายความร้อน

เข้าสู่โหมด ออฟโรดใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4HLc

ลุยไปกับ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ มาสู่การเดินทางในช่วงของการขับขี่แบบออฟโรดหลังจากที่เราถึง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เราเดินทางบนถนน ดำซึ่งเป็นทางเรียบ ไปสู่ โป่งผีเสื้อ ระยะทางอีกราว 20 กว่ากิโลเมตร ก่อนจะจอดรถหยุดสนิทเพื่อเปลี่ยนระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลังมาเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตราทดสูง พร้อมดิ๊ฟล็อค หรือ ในโหมดที่เรียกว่า 4 HLc ซึ่งปุ่มปรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อนี้ จะอยู่ที่คอนโซลกลาง

หลังจากที่ปรับจาก ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อมาเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมดิ๊ฟล็อคแล้ว การเดินทาง บนพื้นดินที่อุ้มน้ำ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีฝนตกลงมา ซึ่งในบางช่วง ต้องผ่านลำห้วย ที่แม้น้ำไม่ลึกมากนัก แต่คันคอดิน ก่อนลงห้วย ก็เปียกลื่น ซึ่งจะผ่านได้เฉพาะรถที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น

สำหรับระยะทางในการ เดินทางไปยังจุดแวะพัก ห้วยคมกฤต นั้นอยู่ราว 9 กิโลเมตร ความเร็วที่สามารถ ไปได้ ไม่สูงนัก เนื่องจากว่าในการขับบนเส้นทางที่เป็นออฟโรด จะต้องถนอมทั้งเรื่องของสภาพเส้นทาง และสภาพรถ ให้สมบูรณ์มากที่สุด

เราขอออกตัวก่อนว่า สำหรับการเดินทาง มาทดสอบบนเส้นทางออฟโรดของขบวน Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ในครั้งนี้ ไม่ใช่ มาเป็นการทดสอบรถ เพียงอย่างเดียว ขบวนเรายังมีกิจกรรมในเรื่องของตอบแทนสังคม ก็คือ การทำ กิจกรรมช่วยเหลือผืนป่า ช่วยเหลือสัตว์ โดยการ หาแหล่งอาหารที่ยั่งยืนให้กับสัตว์ซึ่งจะทำได้ทั้งหมด 3 กิจกรรมหลักๆก็คือ เรื่องของการสร้าง ฝาย เก็บน้ำ ซึ่งทางมิตซูบิชิมอเตอร์ ผู้สื่อข่าว ที่มา ทดสอบรถในครั้งนี้ ได้ร่วมกับทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทำฝาย กักเก็บน้ำ เพื่อให้สัตว์ได้ดื่มกินในช่วงที่ฝนขาดระยะ

นอกจากนี้ในส่วนที่ 2 ยังมีการ ตัดวัชพืช ในส่วนที่ เขาเรียกว่าพืชไม่เกิดประโยชน์ เพื่อเป็นการ สร้างเส้นทางเดินให้สัตว์ ได้ออกมาหาแหล่งอาหารได้อย่างง่ายดาย และเป็นการกำจัดวัชพืช อันไม่พึงประสงค์

ในส่วนที่ 3 ก็คือการสร้าง โป่งเกลือหรือโป่งเทียม ให้เป็นแหล่งแร่ธาตุของสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นช้างรวมทั้งกระทิง ได้มาอาศัย กิน เมื่อสัตว์ทั้งหลาย มีอาหารครบถ้วน มีแหล่งน้ำสมบูรณ์ มีแหล่งแร่ธาตุ ที่ช่วยให้ ร่างกายแข็งแรงแล้วสัตว์เหล่านี้ก็จะไม่ออกไปสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรรอบนอก ป่าแก่งกระจานซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็น วัตถุประสงค์ อีกอย่างนึงของการเข้ามา ทำกิจกรรมในอุทยาน แห่งชาติแก่งกระจานในครั้งนี้ด้วย

กลับมาว่ากันต่อในส่วนของการทดสอบ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ ในขณะที่ เราใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราทดความเร็วสูง ซึ่งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อยังมีโหมดที่แยกย่อย ให้เราเลือกใช้กันได้ อีกถึง 4 โหมดด้วยกัน ได้แก่ Gravel ซึ่งไว้ลุย เส้นทางที่เป็นกรวด Mud/Snow ซึ่งเป็นบ้านเราก็คงมีให้เห็นเฉพาะ เส้นทางที่เป็นเลนเป็นโคลนเท่านั้น ในโหมด Sand ก็จะ เป็นการลุยทราย และโหมด Rock ก็มีไว้ใช้ในขณะที่ ต้องการลุยเส้นทางหิน สำหรับงานนี้ก็สามารถปรับเปลี่ยนมาใช้ในโหมดของ การลุยโคลน ก็ช่วยให้เราขับผ่านอุปสรรค์ไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

ฟังชั่นที่หลากหลาย มีไว้ไม่ได้ใช้ ดีกว่าต้องใช้แล้วไม่มี

สำหรับฟังก์ชันของกล้องมองภาพรอบคันหรือ Multi Around Monitor ก็จะช่วยให้เรา เห็นสภาพรอบตัวรถได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น และแน่นอนซักผ้า ระบบ Hill Descent Control ในส่วนของการลุย ไปบนเส้นทางใน ป่าของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานนี้ก็ มีโอกาสได้ใช้งานด้วยเช่นกัน โดยความเร็วของรถขณะที่ลงเขา ระบบ HDC จะควบคุมรถ เอาไว้ไม่ให้ความเร็วเกินกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ถือว่าช่วยในเรื่องของความปลอดภัยในขณะที่เราลงทางลาดชัน ยาวๆ ได้เป็นอย่างดีทีเดียว

หลังจากที่เราเดินทางออกจากห้วยคมกฤต และอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานแล้ว ก็เป็นการเดินทางกลับเข้าสู่ ตัวเมืองหัวหินและสิ้นสุดการทดสอบ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ กันที่โรงแรมแมริออทรีสอร์ทแอนด์สปา หัวหิน ซึ่งหลายคนถือเป็นการเปิดประสบการณ์ในการขับออฟโรด ที่มีความสนุกสนานและได้รับรู้ถึง ประสิทธิภาพ และสมรรถนะของ มิตซูบิชิปาเจโร่สปอร์ตใหม่ด้วย

ในเรื่องของการขับขี่ โดยรวมแล้ว Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ถือว่าเป็นรถที่มีการเปลี่ยนแปลง มีการเซ็ตทั้งช่วงล่าง ระบบเกียร์ที่ลงตัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ ช่วงล่างจากเดิมที่เคยนิ่ม และออกอาการย้วยบ้างเล็กน้อยปัจจุบันในรุ่นใหม่ มีความเฟิร์ม เกาะถนน โดยเฉพาะเรื่องของการซับแรงกระแทกดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เครื่องยนต์มีการตอบสนองที่ดีขึ้นอัตราเร่ง สำหรับการ setup แล้วจูนนิ่ง ทั้งกล่องเกียร์ และกล่องเครื่องยนต์ใหม่จะช่วยให้ มีอัตราเร่งที่ดีในขณะที่ความประหยัดน้ำมัน ก็มีตัวเลขที่น่าสนใจมากกว่าเดิม

ฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ใส่มาให้ ถือว่าน่าจะมากที่สุดในรถระดับเดียวกัน ในขณะที่ราคาค่าตัว สำหรับตัวท็อป รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ GT Premium ตั้งราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,599,000บาท ไม่แปลก ที่บนท้องถนน เราจะเห็น Mitsubishi Pajero Sport ทั้งรุ่นเดิมและรุ่นใหม่ วิ่งกันอย่าง ขวักไขว่

อย่างไรก็ตาม บางฟังก์ชันเราไม่ได้พูดถึง โดยเฉพาะเรื่องของระบบความปลอดภัยต่างๆ ซึ่ง มีมาให้ค่อนข้างครบ อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ท่านไปลองสัมผัสตัวจริง ก่อนตัดสินใจ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ จะเป็นรถคันที่ใช่สำหรับคุณหรือเปล่า คุณเท่านั้น พี่จะเป็นคนตัดสินใจ