NEW MG4 ELECTRIC รถไฟฟ้าสายพันธุ์แท้ ตอบโจทย์ทุกมิติของการเดินทาง
อัดแคมเปญโค้งสุดท้าย ส่วนลดหนึ่งแสนบาท เหลือราคาเริ่มต้นเพียง 769,000 บาทเท่านั้น
ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยียานยนต์ทุกวันนี้ แม้จะเน้นเรื่องความปลอดภัยมาเป็นอันดับต้นๆ แล้ว ยังมีเรื่องของสมรรถนะช่วยตอบสนองกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และที่สำคัญไม่แพ้กันก็คงเป็นเรื่องของการใช้งานที่ประหยัดและสะดวกสบาย กับการเดินทางทุกรูปแบบ รถยนต์ไฟฟ้าจึงถือเป็นคำตอบหนึ่งที่ช่วยให้ทุกการเดินทาง เพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบาย ปลอดภัยในขณะที่ค่าใช้จ่ายเรื่องของพลังงานถูกลงกว่ารถยนต์สันดาปที่ใช้น้ำมันอย่างเห็นได้ชัด ค่ายรถยนต์ MG ถือเป็นค่ายแรกๆ ที่บุกเบิกเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า ที่เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าออกมาให้ผู้บริโภคเลือกใช้อยู่หลายรุ่นและรถรุ่นที่เรากำลังพูดถึงนี้ก็ถือเป็นรุ่นใหม่ที่ถือว่าตอบโจทย์ผู้ใช้ในทุกๆ ด้านที่กล่าวมานั่นก็คือ NEW MG4 ELECTRIC
NEW MG4 ELECTRIC เปิดตัวและทำตลาดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายน 2022 โดยวางตำแหน่งให้เป็น “แฮทช์แบคไฟฟ้าที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลัง” กับจุดเด่นในการเป็นรถไฟฟ้าที่ขับสนุก จนได้รับการยกย่องจากสื่อหลายสำนักทั่วโลกให้เป็น “รถไฟฟ้าที่มีความโดดเด่นในเรื่องการขับขี่และคุ้มค่าที่สุดในตลาด” และรางวัลใหญ่ในยุโรป อาทิเช่น รางวัล UK CAR OF THE YEAR 2023
นอกจากนี้ยังได้รับคัดเลือกเป็นรถที่โดดเด่นที่สุดใน Compact Segment จาก GERMAN CAR OF THE YEAR 2024 ทำให้ MG4 มีจำนวนยอดส่งออกแล้วกว่า 57,000 คันทั่วโลกในปี 2023 (ยอดเดือน มกราคม – สิงหาคม 2023) ถือเป็นโมเดลที่ผลักดันให้วงการอีวีของ เอ็มจี ไปสู่อีกขั้นในตลาดโลกไม่นับรวมเรื่องของราคาค่าตัว และแคมเปญโค้งสุดท้ายก่อนสิ้นสุดนโยบายสนับสนุนจากทางภาครัฐสิ้นปี โดยเอ็มจี อัดเพิ่มส่วนลด อีก หนึ่งแสนบาท ทำให้เหลือ ราคาเริ่มต้นเพียง 769,000 บาทเท่านั้น
แพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC ออกแบบมาสำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ
ถ้าจะให้พูดถึงจุดเด่นของ NEW MG4 ELECTRIC นั้นมีหลากหลาย แต่ที่ถือว่าเด่นชัดและน่าสนใจอย่างยิ่งก็เป็นเรื่องของการออกแบบ รถ NEW MG4 Electric ให้เป็นรถไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ สายพันธุ์แท้ ส่งผ่านกำลังขับเคลื่อนไปยังล้อคู่หลัง (DYNAMIC REAR WHEEL DRIVE) ซึ่งก็จะทำให้เป็นรถที่มีการขับขี่ที่สนุกสนาน และสัมผัสได้ถึงพลังของมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างเร้าใจมากยิ่งขึ้น ด้วยขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร มาพร้อมกับเทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERY ขนาดความจุ 51 kWh จัดเรียงเซลล์แบบแนวนอนและระบายความร้อนด้วยระบบ Liquid Cooling system สามารถวิ่งในระยะทางไกลสูงถึง 425 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC)
.เป็นรถไฟฟ้าที่มีการกระจายน้ำหนักแบบสมมาตรที่ 50:50 อีกทั้งตัวถังมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ (LOW CENTRE OF GRAVITY) สอดคล้องกับช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังอิสระแบบ 5-Link Suspension ทั้ง 2 รุ่นย่อย ที่ไม่เพียงแค่ลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวท้องถนนได้ดีเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย บุคลิกของรถรุ่นนี้จึงมีความคล่องแคล่ว ตอบโจทย์การขับในเมือง การเลี้ยวในทางแคบจึงไม่เป็นปัญหา รัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.3 เมตร และมี Overhang ด้านหน้าและหลังของรถที่สั้น
NEW MG4 ELECTRIC ยังเป็นรถไฟฟ้าที่สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ค่อนข้างละเอียดเลยทีเดียว มีให้เลือกมากถึง 5 โหมด ได้แก่ SNOW, ECO, NORMAL, SPORT และ CUSTOM ที่สามารถตั้งค่าได้ทั้งน้ำหนักพวงมาลัย + อัตราเร่ง + แรงที่ใช้ในการเหยียบเบรก ซึ่งการมีโหมดการขับขี่ให้เลือกหลากหลายนี้ก็เพื่่อตอบสนองสไตล์การขับขี่ของแต่ละคนได้อย่างลงตัวมากยิ่งขึ้นนั่นเอง